รายได้นายอบจาก trueid creators ปี 2565

 แอบอู้ไม่ซื่อตรงกับตัวเอง เนื่องจากงานหลักมันหนักเสียจนไม่คิดหาเวลามาทำอย่างอื่น ถึงบ้านก็อยากนอนพักไม่อยากคิดไรให้ปวดหัวเพิ่มอีก แถมด้วยช่วงอารมณ์ที่ไม่มั่นคง ไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไรเลยซักอย่าง จากการสรุปยอดรายสัปดาห์ ขยับมารายเดือน ตอนนี้เหมา ๆ เลย สรุปรายปีไปเลยแล้วกัน ที่จริงต้องรอยอดสุดท้ายอาทิตย์หน้าก่อน แต่ก็ช่างเถอะเพราะเดี๋ยวคงจะไม่ได้มาเขียนสรุปอีก 

วันนี้พอจะมีไฟและเวลา ก็จัดไปเลยแล้วกัน สรุปยอดรายได้กับทรูไอดี ที่ทำบ้างไม่ทำบ้างของผม จะได้รวมเท่าไรมาดูกัน

นายอบ | Creator Profile at TrueID Creator

เริ่มไอดีที่สมัครทิ้งไว้เมื่อปี 2020 ตั้งแต่สมัยกฎ 500 วิว ได้ 100 บาท แต่ด้วยว่าลองเขียนดูซักบทความก่อนถ้ายอดวิวดีค่อยมาเขียนต่อปรากฎว่ายอดวิวไม่ได้ดีอย่างที่คิด มารู้ตัวอีกทีตอน มีนาคม 2565 ปี 2022 นี้เอง ที่อยู่ ๆ มีเงินเข้ามาที่ทรูวอเล็ทยอดไม่ถึงบาทเลยสงสัยทีมาจนรู้ว่าโอนมาจากทรูอินเทรน์ เลยเข้าไปดู แต่ผมดันเปลี่ยนเบอร์ไปแล้วก็เลยติดต่อขอกู้ไอดี แต่ทำได้เพียงใช้เมล์ล็อคอิน ก็ยังคงมีปัญหาอัพเดทโปรไฟล์ไม่ได้อีก เพราะว่าไม่มีการเชื่อมต่อกับเบอร์ทรูไอดีหรือบัญชีทรูไอดีที่ลงทะเบียนเบอร์ไว้ เลยแจ้งให้เขาเปลี่ยนเบอร์ให้แต่ไม่สามารถทำได้ระบบไม่รองรับให้เปลี่ยนได้ ที่ทำได้คือต้องสมัครแล้วทิ้งไอดีนี้ไปเลย แล้วผมจะทิ้งได้ไงละมันเริ่มสร้างรายได้แล้วจะให้ทิ้งลงหรอ 

ก็เลยเริ่มเขียนบทความที่ 2 ลงในไอดีเก่านี้แหละ ตั้งเป้าว่าจะเขียนทุกวันแต่ก็ทำไม่สำเร็จ เลยลดเป้าเหลือแค่ 10 บทความต่อเดือน เพื่อให้ได้ 100 บทความต่อปี ช่วงแรกก็ขยันอยู่แต่ไปมาก็มีบางเดือนไม่ได้เขียนเพิ่มเลย แต่สุดท้ายก็ทำสำเร็จ 100 บทความ ได้ยอดวิวทั้งหมด 113,912 ครั้ง เงินรางวัลทั้งหมด 7,879.11 บาท

นายอบ | Creator Profile at TrueID Creator

มาต่อที่ไอดีที่สอง ใช้เบอร์ปัจจุบันสมัคร ตอนแรกก็แค่จะสมัครเพื่อแคปหน้าจอไปเขียนบทความแนะนำการสมัครใช้งาน แต่เนื่องจากมันผูกกับบัญชีทรูไอดีได้สามารถแก้ไขโปรไฟล์ได้ ก็เลยว่าจะเขียนบทความอีกแนวเน้นไปทางบันเทิง หรือความรู้ แต่พอเขียนไปมาก็เริ่มปนกันมั่วเลย พอไอดีเก่าบทความครบ 100 บทก็เลยคิดว่าจะไม่เขียนต่อแล้วย้ายมาเขียนไอดีใหม่แทน เพราะมันปรับแต่งโปรไฟล์ได้ แลดูดีกว่าเยอะ ถึงจะยังคงเสียดายบทความในไอดีเก่าแต่ก็ยังคงทำเงินให้อยู่แม้จะหยุดเขียนไปแล้ว อีกอย่างเวลาเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ จะได้ไม่สับสนว่าใช้ไอดีไหน 

บทความในไอดีใหม่เขียนมาได้ 50 กว่าบทความแล้ว ยอดวิวทั้งหมด 64,559 ครั้ง เงินรางวัลทั้งหมด 4,168.37 บาท ไอดีนี้เขียนแบบไม่ค่อยได้กดรับจ๊อบเลยได้เงินจากยอดวิวอย่างเดียวเป็นหลัก คาดว่าจะใช้เป็นไอดีหลักยาว ๆ ไปจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง 

สรุปรวมเขียนบทความกับทรูมาเกือบปี ชอบตรงเงื่อนไขจ่ายตามยอดวิวไม่มีขั้นต่ำซึ่งดีมากเลยสามารถรับเงินได้เลยทันทีไม่ต้องรอสะสม แม้จะมีบางอย่างที่ยังไม่ถูกใจบ้างแต่ก็ต้องทำใจเพราะเขาเป็นคนจ้างเราเงื่อนไขต่าง ๆ เขาก็เลยมีสิทธิกำหนดเพื่อธุรกิจของเขา ส่วนเราก็มีแต่ต้องปรับตัวถ้ายังต้องการทำเงินจากช่องทางนี้อยู่ ตอนแรกว่าจะลองไปรับเขียนบทความเองแต่ก็หลายอย่างที่รู้สึกไม่ปลอดภัยไหนต้องสะสมยอดให้ถึงเป้าถึงถอนตังได้ ไหนจะเรื่องความเร่งรีบกำหนดเวลา ก็ยังไม่ได้มั่นใจในฝีมือมากถึงขั้นอัพค่าตัว ค่าบทความแต่ก็อยากมีซักวันที่รับงานบทความหลักพักหลักหมื่น หรือหลักแสน ไม่รู้จะแค่ฝันกลางวันไหม ก็คงต้องพัฒนาฝีมือกันต่อไป 

สิ้นปีแล้วก็มาพร้อมกับเรื่องภาษีไม่รู้ว่าทรูมีนโยบายยังไงบ้าง เห็นส่งแบบมาเก็บข้อมูลไปทำใบหักภาษีให้อยู่ รถติดตามกันต่อไป 

5 มือถือใหม่น่าใช้ปี 2022 ประจำเดือนพฤศจิกายน

รวมมือถือใหม่น่าใช้ปี 2022 ในช่วงปลายปีแบบนี้ในเดือนพฤศจิกายน มีมือถือออกใหม่ และรวมถึงที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ก็ยังคงมีความน่าสนใจในการจับจองเป็นเจ้าของกันอยู่น่ะ วันนี้จัดรายการมาให้เฉพาะตัวที่ผมสนใจแอบเล็งอยู่ในช่วงนี้เรียกว่ามีดีกันไปคนละอย่าง จะมีรุ่นไหนบ้างมาดูกัน

INFINIX ZERO 20 เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 7 พ.ย. 65 นี้เองด้วยความจัดเต็มสเป็คที่โดดเด่นด้วยราคาแสนถูกเปิดตัวที่ราคา 8,999 บาท แต่ช่วงนี้ใน Shopee จัดลดราคาอยู่ที่ 7,999 บาท และยังใส่โค้ดส่วนลดเพิ่มได้อีก 200 บาท เหลือเพียง 7,799 บาท แถมยังมีเครื่องชั่งน้ำหนักแถมให้อีก เรียกว่าดูแค่ราคาก็ว้าวแล้ว ส่วนด้านสเป็คที่โดดเด่นดึงดูดใจก็คือตัวกล้องหน้าที่ให้มาถึง 60MP + OIS กันสั่นกล้องหน้า สายถ่าย Vlog น่าจะถูกใจกันแหละ กล้องหลังก็ให้มากถึง 108MP หน่วยเก็บความจำให้มากถึง 256 GB แรม 8 GB แค่นี้ผมก็เทใจให้มากแล้วเนี่ย 

รับสัญญาณ  4G

Wi-Fi 5

CPU :  MediaTek Helio G99

กล้องหน้า 60MP OIS

กล้องหลัง 108MP

จอ 6.7 นิ้ว FHD+ AMOLED

ROM 256 GB RAM 8 GB

แบต 4,500 mAh ชาร์จไว 45W

Nokia X30 5G สำหรับแฟนโนเกียคงพลาดไม่ได้กับมือถือรุ่นนี้ เรียกว่าท๊อปสุดในช่วงนี้แล้ว และยังเป็นมือถือรักษ์โลกที่หยิบเอาวัสดุรีไซเคิลมาประกอบเป็นเครื่องนี้ แต่ราคาเปิดตัวอย่างแรงเลย เมื่อเทียบสเป็คกับยี่ห้ออื่น ราคาเปิดตัวที่ 16,990 บาท โดยจะมีโปรลดราคาเป็นช่วง ๆ ต้องคอยติดตามถ้าอยากได้ในราคาที่ถูกกว่านี้ ซึ่งเมื่อต้นเดือน พ.ย.65 ใน Shopee เพิ่งจัดโปรลดสูงสุดเหลือเพียง 14,990 บาท ใส่โค้ดลดได้อีก 700 บาท ก็ต้องเฝ้ารอว่าจะมีจัดลดราคาอีกไหมด้านสเป็คก็ดีระดับนึงที่สำคัญรองรับ 5G กับจุดเด่นหลักของโนเกียคือการอัปเกรดระบบปฏิบัติการ 3 เวอร์ชั่น โดยเริ่มจาก Android 12 เรียกว่าใช้งานกันไปยาว ๆ แบบไม่มีโดนเทเลยสบายใจได้งานนี้ กับอีกข้อดีคือเป็น Pure Android ก็จะไม่มีโปรแกรมที่เราไม่ต้องการติดมาด้วย แต่ก็อาจเป็นข้อเสียของคนที่ไม่ชอบปรับแต่งอะไรเพราะเครื่องมือบางอย่างก็ต้องหาโหลดมาติดตั้งเองไม่ได้มีมากับเครื่องงานนี้แล้วแต่คนชอบ แล้วเขามีจุดขายที่การถ่ายภาพแบบ PureView และโหมดถ่ายภาพกลางคืน

รับสัญญาณ  5G

Wi-Fi 6

CPU :  Snapdragon 695 5G

กล้องหน้า 16MP

กล้องหลัง 50MP OIS

จอ 6.43 นิ้ว FHD+ AMOLED

ROM 256 GB RAM 8 GB

แบต 4,200 mAh ชาร์จไว 33W

OPPO Reno8 Pro 5G เรื่องงานภาพกล้องหน้าถ่ายแล้วสวยเลยไม่ต้องแต่งรูปต้องยกให้เจ้านี้เลย เปิดตัวมาที่ราคา 31,990 บาท ช่วงนี้ราคาลงมาแล้วใน Shopee อยู่ที่ 28,990 บาท และที่เด่นสุดของค่ายนี้คือการชาร์จไวที่เรียกว่าเร็วสุด ด้านดีไซน์เขาทำออกมาแบบเรียบไม่มีรอยต่อทำให้ดูสวยขึ้นมากเลย จุดดีอีกอย่างของรุ่นนี้คือสแกนนิ้วบนหน้าจอได้เลยทำให้ง่ายต่อการใช้งาน แต่ที่จริงเขาก็ใช้ใบหน้าได้ด้วย เครื่องนี้จึงเน้นไปที่การถ่ายรูปเป็นหลักเลย ไม่ว่าจะแบบหน้าชัดหลังเบลอ หรือถ่ายแบบ Macro มันไม่ใช่แค่ว่ากล้องดีแต่แอปกล้องนี้คือดีมาก สำหรับคนที่ตั้งค่าใด ๆ ไม่เป็นก็หยิบมากดถ่ายมันจัดการให้สวยอัตโนมัติชอบมากเลย

รับสัญญาณ  5G

Wi-Fi 6

CPU :  MediaTek Dimensity 8100-MAX

กล้องหน้า 32MP

กล้องหลัง 50MP 

จอ 6.7 นิ้ว FHD+ AMOLED

ROM 256 GB RAM 12 GB

แบต 2 × 2,250 mAh ชาร์จไว 80W SUPERVOOC

Xiaomi 12T ProXiaomi 12T Pro อีกค่ายที่แอบเล็งมานานแต่ยังไม่มีโอกาสได้ใช้งานเลย ตัวนี้มีดีที่จอภาพสายดูหนังต้องชอบแน่ ลำโพงก็จัดมาให้เต็ม เสียงดังฟังเพราะแน่นอน ไม่กลัวแดดพร้อมสู้ที่ 500 - 900 นิต  แถมด้วยระบบระบายความร้อนที่จะทำให้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่องดูหนังได้ไม่ติดขัด เรื่องแบตก็ให้มาเยอะอยู่ แถมชาร์จไว 120W จะเร็วไปไหนครับเนี่ย ที่สำคัญแถมอะแดปเตอร์ 120W ให้ด้วยใจป๋ามากเลย อีกจุดเด่นเลยคือกล้องหลัง 200 ล้านพิกเซล ว้าวมากเลย ภาพที่ได้จากการถ่ายนี่มันจะชัดขนาดไหนกันสายถ่ายรูปคงถูกใจเลย เรียกว่าเครื่องเดียวได้ทั้งถ่ายรูปดูหนังกันเลย ราคาเปิดตัวที่ 25,990 บาท 

รับสัญญาณ  5G

Wi-Fi 6

CPU :  Snapdragon 8 Gen 1

กล้องหน้า 20MP

กล้องหลัง 200MP 

จอ 6.67 นิ้ว AMOLED DotDisplay

ROM 256 GB RAM 12 GB

แบต 5,000 mAh ชาร์จไว 120W 

iphone 14 proiPhone 14 Pro ค่ายนี้แม้ด้านสเป็คหลาย ๆ อย่างจะดูน้อยกว่าเจ้าอื่นแต่ก็มีดีที่ชิปที่แรงเป็นอันดับหนึ่งไม่มีใครเทียบได้ ร่วมกับระบบปฏิบัติการอย่าง IOS และแอปที่แถมมากับเครื่องที่ให้ใช้กันได้แบบฟรี ๆ เลย ความลื่นของแอปและการใช้งานเรียกว่าไม่มีที่ติแถมยังอัพเดทกันได้ยาว ๆ ไม่มีโดนเทก่อนแน่นอน และถึงแม้ราคาเครื่องจะสูงแบบมากเกินแต่ราคามือสองก็สูงตามไปด้วยเป็นโทรศัพท์ที่มีมูลค่ามากแม้จะเป็นรุ่นที่ออกมาหลายปีแล้ว เรียกว่าใช้งานกันแบบยาว ๆ ไปได้เลย ส่วนลูกเล่นใหม่ของรุ่นนี้ก็คงเป็นเจ้าเกาะดำที่ทำให้คนใช้งานได้รับประสบการณ์แปลกใหม่ ราคาเปิดตัวเริ่มต้นที่ 41,900 บาท 

รับสัญญาณ  5G

Wi-Fi 6

CPU :  A16 Bionic

กล้องหน้า 12MP

กล้องหลัง 48MP 

จอ 6.1 นิ้ว OLED 

ROM เริ่มที่ 128 GB - 1 TB

แบต 3,200 mAh ชาร์จไว 30W 

เป็นไงกันบ้างครับมีที่โดนใจกันบ้างหรือป่าว ส่วนผมแอบเล็งไว้แล้วถ้ามีโอกาสจะเอามารีวิวให้ดูกันครับ หนึ่งในนี้แหละเสร็จผมแน่ เดี๋ยวขอตัวไปเก็บส่วนลดไว้ก่อนนะครับ ช่วงนี้ไม่ว่าจะ 11.11 หรือ 12.12 หรือจะปีใหม่ ก็เตรียมไว้เลยต้องมีโปรลดจัดหนักกันแน่นอนติดตามกันไปครับ

วิธีแต่งนิยายฉบับมั่วนิ่ม

 ได้แต่เฝ้าฝันว่าอยากมีนิยายเป็นของตัวเองซักเรื่องต้องทำยังไง เอาจริงวิธีการมันก็ไม่ได้ยุ่งยากเลยแค่ลงมือทำเอง เมื่อเดินก้าวแรกไปแล้วก้าวต่อๆไปมาก็จะตามมาเอง 

เนื่องจากเราก็ยังไม่ได้ลงมือทำสักที จะมีก็แต่เรื่องสั้นฉบับจบในตอนที่ลองเขียนมัวตามใจตัวเองดู ก็พบว่าเรานี่ช่างไร้พรสวรรค์แท้ๆ ก็ไม่เป็นไรหาเอาจากพรแสวงแทนก็แล้วกันแค่ต้องพยายามมากขึ้นเรียนรู้เรื่องที่จะเป็นประโยชน์มากขึ้น 

พยายามหาอ่านฟรีวิธีการ จนไปเจอว่าการอ่านผลงานคนอื่นก็ช่วงให้เราสามารถเขียนเก่งได้แต่ไม่ใช่ว่าลอกคนอื่นนะ แค่เป็นแรงบัลดาลใจ พอมาย้อนดูเอาจริงเราไม่ได้ชอบอ่านนิยายนี่หว่าแล้วจะไปเขียนภาษานิยายได้ยังไงกัน ที่เราอ่านก็แค่มังงะ กับดูอนิเมะ หรือหนัง ละคร เองคงจะทำได้เพียงร่างโครงตามจินตาการ ส่วนรายละเอียดก็คงต้องส่งต่อให้คนอื่นเอาไปเติมเต็ม

ตามความคิดของเรา ซึ่งเราอาจจะลงมือทำในซักวันก็หวังว่า การจะแต่งนิยายซักเรื่องคงต้องเริ่มขั้นตอนตามนี้ให้ได้ก่อน

1. วางโครงเรื่อง เนื้อหาเกี่ยวกับอะไร อยากจะเล่าอะไร

2. ตัวละคร ที่จะใช้เล่าเรื่องเดินเรื่อง

3. บทของแต่ละฉากต้องการสื่ออะไรเพื่ออะไร

4. ลงมือยำให้อร่อย ถ้าได้เรื่องแล้วเดี๋ยวก็คงมโนต่อได้เองแหละ

นี่เป็นสิ่งที่เราคิดจะทำแต่ยังไม่ได้ลงมือ ใครคิดว่าเอาไปใช้ได้จริงหรือว่าลองทำตามแล้วเป็นไงบอกกันมั่งน่ะ 555+ ส่วนถ้าซักวันผมได้ทำตามนี้จะมาเล่าให้ฟัง

รีวิว OMG! รักจังวะ..ผิดจังหวะ แอบรักไม่กล้าบอกถึงได้วุ่นวายชีวิต

หนังไทยรักในวัยรุ่น OMG! รักจังวะ..ผิดจังหวะ เห็นตัวอย่างแล้วก็อยากดูมากเลย เรียกว่าเป็นหนังความรักความสัมพันธ์ของเด็กมหาลัย ซึ่งแนวนี้ก็มีให้ดูมาหลายสมัยแต่มันก็ยังคงใหม่เสมอ เพราะด้วยวิธีการพัฒนาความสัมพันธ์ของแต่ละยุคมันก็มีบริบทแตกต่างกันไปมากมาย สำหรับเราที่จบมานานละก็มีบางอย่างที่ไม่เข้าใจเหมือนกัน

พระเอกนางเอก OMG! รักจังวะ..ผิดจังหวะงานภาพ มุมกล้อง ทำออกมาได้ดีแต่ละฉากก็มีองค์ประกอบที่เป็นเรื่องราวในประเทศไทยนี่แหละ ไม่ว่าจะเป็นฝนตกน้ำท่วม ตลกดีเข้าร้านไปยังแห้งอยู่เลยออกมาน้ำท่วมซะงั้น ตอนดูก็งงละสับสนอยู่ว่ากรุงเทพหรือเชียงใหม่ แต่เห็นมีรถแดงก็น่าจะเชียงใหม่มั่ง คนถิ่นแค่เห็นบางฉากก็คงรู้แหละมั่ง โดยเฉพาะเด็กนักศึกษาคงคุ้นเคยกันร้านพวกนี้บ้างแหละ 

https://www.facebook.com/gdh559/photos/2295923837233444ความเล่าเรื่องนำแบบเล่นกับตัวละครก็เป็นมุกเดิม ๆ ที่ได้ใจเสมอ เข้าไปดูเพิ่งมาเก็ตกับชื่อเรื่อง OMG! โอ้ มาย ก๊อด พระเจ้านี่เอง ในเรื่องถึงมีการพูดถึงอยู่บ่อยครั้ง ส่วนบทก็ทำได้เนียนดีก็เป็นปัญหาของคนที่แอบรักเขาแต่ปากแข็ง ก็ธรรมดาชีวิต ต้องโดยลงโทษฐานไม่ซื่อตรงกับความรู้สึกตัวเอง ปากแข็งไม่ยอมบอกกล่าว มีหลายอย่างที่ถ้าเป็นเราคงไม่ทำแบบนี้แน่ แต่นี่ก็เป็นทางเลือกของตัวละครนี้แหละนะ

https://www.facebook.com/gdh559/photos/2297466747079153การแสดงของพระเอกนางเอก แสดงดีมากเลยฟินอยู่หลายฉาก แต่บางอย่างก็ดูโหดร้ายกับจิตใจคนซะเหลือเกิน ก็ถ้ามีคนอื่นในใจทำไมไม่ไปเคลียร์กันให้เสร็จก่อนมาคบหากับอีกคน เอาเถอะใจคนยากแท้หยั่งถึง สำหรับผมดูแล้วก็ถือว่าเหมาะสมแล้วสำหรับคู่นี้ แม้ตอนจบจะไม่ฟินขั้นสุดแต่ก็ถือว่าไม่เลวร้าย อีกอย่างที่ชอบในเรื่องคือพี่สาวน้องสาวของพระเอกทั้งสามคน แต่ละคนมีการคิดวิเคราะห์และคำแนะนำที่สุดยอดมากเลย ทำให้สนุกมากขึ้นอีก

พี่สาวน้องสาว OMG! รักจังวะ..ผิดจังหวะสุดท้ายคงต้องบอกว่าเป็นหนังไทยแนวรักแบบไม่ใสนะ นอกจากคู่พระนางก็มีคู่อื่นในเรื่องอีกใส่มาแค่เพื่อนำเสนอแง่มุมของความรักในช่วงเวลาต่าง ๆ ซึ่งก็ไม่ได้มีรายละเอียดมากนัก แต่ก็ทำให้หนังครบรสมากขึ้น ผมมองว่ามันไม่ใช่การรักผิดจังหวะ แต่มันเป็นการไม่ใส่ใจที่จะชัดเจนกับความรู้สึกตัวเองซะมากกว่า ชอบก็ไม่บอกตรง ๆ แถมยังไปดึงคนอื่นมาวุ่นวายชีวิตอีก แต่ถ้าใครชอบตัวนักแสดงอยู่แล้วก็อาจมองข้ามเรื่องบทไปได้อยู่ สำหรับผม OMG! รักจังวะ..ผิดจังหวะ จัดไปที่คะแนน 8/10 ถือเป็นหนังที่นำเสนอมุมมองความรักได้ดีระดับนึงเลยละ เหมาะกับคนที่เคยผ่านชีวิตวัยนักศึกษามาแล้วจะอินมากกว่าคนยังไม่ถึงวัย

ซื้อแบตมือถือมาเปลี่ยนเองมันจะอยากตรงไหน? Nokia 8.1

หลังจากใช้งาน Nokia 8.1 มาครบสามปีก็เริ่มเห็นว่าเครื่องมันบวมๆหรือป่าวน่ะ สงสัยต้องหาเปลี่ยนแบต เลยไปที่ร้านแต่ไม่มีร้านไหนรับเปลี่ยนให้เลย ก็เลยซื้อแบตมือถือมาเปลี่ยนเองซะเลย มันจะอยากตรงไหน? งานช่างแบบนี้ชายไทยก็ต้องเข้ามืออยู่แล้วจัดไปดิรออะไร

แบตเตอรี่มือถือ Nokia 8.1จัดไปเลยสองร้อยกว่าบาทผ่านแอปมาครบพร้อมอุปกรณ์ ส่วนวิธีการเปิดดูยูทูปแต่ก็หาที่ตรงรุ่นไม่ค่อยเจอเหมือนกัน ก็อาศัยรุ่นใกล้เคียงกันไป ในใจคิดว่าถ้าไม่เปลี่ยนเองยังไงมันก็ต้องถึงคราวตามอายุอยู่ดี เพราะถ้าบวมมาก ๆ ก็ไม่กล้าใช้เหมือนกัน เดี๋ยวระเบิดตูมตามไปแย่เลย แต่ก็ไม่เคยเจอนะส่วนใหญ่จะซื้อใหม่ก่อนตลอด แต่ช่วงนี้ทรัพย์จืดจางต้องอาศัยงานช่างยื้อเวลาต่อไปก่อน

ถอดฝาหลังด้วยอุปกรณ์ที่มีมาให้ฝาหลังโทรศัพท์ส่วนใหญ่ก็คงคล้าย ๆ กันข้างด้านในจะทากาวไว้ ก็เอาอุปกรณ์บาง ๆ มาแซะออกแล้วรูดให้กาวหลุดออก ใช้ที่ดูดฝาหลังค่อย ๆ ดึง นะครับ ให้แง้มออกมาช้า ๆ ใจเย็น ๆ ระวังเรื่องรอยด้วย ใช้ที่งัดขัดเข้าไปช่วงง้างออกจะได้ง่ายขึ้น

ถอดฝาหลังได้แล้วเห็นไหม?ครับง่ายนิดเดียว แต่เดี๋ยวน่ะ ก็บอกให้ดึงเบาๆไงโธ่ว สายแพรสแกนนิ้วมันขาดแล้วเห็นไหม?นั้นน่ะ T^T งานงอกเพิ่มอีกหนึ่ง แถมพอแกะออกดูแบตเดิมก็ไม่ได้บวมขนาดนั้นซักหน่อยนี่น่า สงสัยความมโนอยากได้เครื่องใหม่ครอบงำให้เห็นว่าเครื่องมันบวมแน่เลย มาถึงขั้นนี้ก็ต้องไปต่อให้สุด หลังจากสงบสติอารมณ์จากความผิดพลาดก็ไปกันต่อ ถอดน๊อตด้านบนออกทั้งหมดเพื่อแกะสายแพรที่ติดแบตออกจากตัวเครื่อง 

ถอดน็อตและสายแพรออกจากเครื่องตรงนี้ต้องหาที่วางน๊อตให้ดีแนะนำให้ทำกับพื้นจะได้ไม่หล่นหาย หาผ้าที่มีสีตัดกันด้วยจะช่วยได้มาก ดึงสายแพรออกจากแผงวงจรและงัดตัวแบตออกจากเครื่อง ตรงนี้แน่นมาก เขาติดกาวไว้อย่างดีจะดึงออกยากนิดนึง จะดึงแรกก็กลัวพาดทำไรขาดอีก เลยค่อย ๆ งัดออกมาอย่างใจเย็น สังเกตเห็นแบตที่อยู่ในเครื่องจะเริ่มบวมนิด ๆ แค่นิดเดียวเอง ที่จริงก็น่าจะยังใช้ต่อได้น่ะไม่น่ารีบเปลี่ยนเลย แบตก็ไฟยังได้อยู่ทั้งวัน แต่ช่างเถอะทำไปแล้วทำไงได้

ใส่กลับให้เหมือนเดิมตรงนี้ก็อาศัยความใจเย็นนิดนึงเพราะกว่าจะใส่น๊อตคืนได้ครบทุกรูนี่ ได้ฝึกอารมณ์ไปหลายครั้งเลย เล็กนิดเดียว กว่าจะครบนี่ลำบาคเหมือนกัน หลังจากใส่ครบแล้วก็ปิดฝาหลังได้เลยกาวเดิมยังคงเหนียวอยู่ผิดปุ๊บก็แน่นเหมือนเดิมเลย เปิดเครื่องมาติดมีแบตมาด้วยห้าสิบเปอร์ ใช้จนหมดแล้วเอาไปชาตก็พบปัญหานิดหน่อย เหมือนจะชาตได้ไม่เต็ม ได้แค่ 93% เองแต่ก็อยู่ได้ทั้งวันนะแถมรู้สึกว่าใช้งานได้นานกว่าเดิมด้วยเพียงแค่แสดงตัวเลขแบตไม่ตรงอ่ะ สินค้ารับประกัน 6 เดือน แต่ถึงมีปัญหาก็ไม่รู้ว่าจะส่งเครมได้รึป่าว แต่ก็มั่นใจว่าน่าจะใช้ไปต่อได้อีกยาว ๆ เกิน 6 เดือนแหละ

สรุปส่งท้าย ซื้อแบตมือถือมาเปลี่ยนเองมันจะอยากตรงไหน?

 ยากตรงที่ต้องใช้ความระมัดระวังกับอุปกรณ์ชิ้นเล็กชิ้นน้อยนี่แหละ แถมคนทำต้องใจเย็นมากพอสมควร ไม่งั้นอาจพลาดทำพังแบบผมก็ได้ เมื่อเทียบราคาความคุ้มแล้ว แบตสองร้อยกว่า ค่าแรงไม่ต้อง ก็ถือว่าคุ้มแหละ แต่ดันทำพังไปอีกงานเพิ่ม ไปส่องค่าตัวสแกนนิ้วห้าร้อยกว่าบาท พอเอามารวมกันโอ๊ยเจ็ดร้อยกว่าไปละ แต่ก็ยังถือว่าราคาพอ ๆ กับไปเปลี่ยนที่ร้าน ตามร้านจะรับเปลี่ยนอยู่ที่ 500 - 900 บาท ส่วนสแกนนิ้วถ้าได้มาจะมารีวิวให้ดูอีก แต่ถ้าซื้อเครื่องใหม่ได้ก่อนก็อาจจะไม่ได้ซ่อมต่อแล้ว ช่วงนี้ก็ทนลำบากไถหน้าจอล็อดรหัสไปก่อน เอานิ้วจิ้มสบายจนชิน ใครที่คิดจะลอกทำเองถ้าคิดว่าไม่มีอะไรจะเสียแล้วก็ลอกเถอะครับถือเป็นประสบการณ์ได้ฝึกวิชาเพื่อชำนาญได้กลายเป็นอาชีพเสริมเพิ่มเติมไปอีก

รายได้นายอบจาก trueid creators เดือนตุลาคม 2565

   มาต่อกันที่สัปดาห์นี้ รายได้จาก TrueID Creators  ยอดตกมาหลายอาทิตย์เนื่องจากงานเยอะจัดจนเวลาไม่พอให้เขียนบทความได้มากนัก ดองการเขียนสรุปรายอาทิตย์มาเป็นรายเดือนแทน อีกหน่อยก็คงเป็นรายปีแทน นายอบ นี่น่ะทำไรจับจดอีกแล้ว ขนาดออกกฎให้เขียนวันละบทความ ลดมาอาทิยต์ละบทความ จนมาเป็นเดือนละบทความแล้วเนี่ยมั่ง พัฒนาหน่อย แต่อย่างว่าบางสิ่งขยันผิดจุดก็ไม่เกิดประโยชน์ บางครั้งมันก็ต้องมีหลายองค์ประกอบ เช่น อยากเขียน+มีผลประโยชน์ หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง 55+ แก้ตัวไปก่อน นี่ถ้าเป็นนายจ้างตัวเองเรียกค่าปรับได้โขล่ะ ถึงได้ไม่อยากรับงานใครเพราะงี้แหละ อินดี้หรือขี้เกียจก็ไม่รู้ มาสรุปกัน

รอบเดือนตุลาคม รวมรับเงินสี่อาทิตย์ รวม ๆ ไปเลยน่ะ 531.28 + 244.38 + 388.96 + 347.57 = 1,512.19 ต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้เยอะเลย ขั้นต่ำ 2,000 พลาดไปเยอะเลยแย่จังไม่มีอะไรจะแก้ตัว มาดูจำนวนบทความกันดีกว่าว่าเขียนไปได้เท่าไร

นายอบ รอบนี้มีบทความเพิ่มใหม่ 4 บทความ

• ขี้เกียจฟัง 5 เพลงใหม่ TIMETHAI-TIMELESS มาฟังตอนนี้ก็ยังไม่สาย
• ลงทะเบียนขอคืนเงินประกันการใช้น้ำ การประปาส่วนภูมิภาค กันเถอะรับทรัพย์
• รีวิว Xiaomi Mi Body Composition Scale 2 เครื่องชั่งน้ำหนักตรวจสุขภาพ
• รีวิว MV เพลง "ริบบิ้นเลิฟคัลเลอร์แบล็ค" PALMY Feat.สิงโต นำโชค ทำเอานึกถึงเพลงฮิตโบว์รักสีดำ 

nineob รอบนี้มีบทความเพิ่มใหม่ 6 บทความ

• Bleach : Thousand Year Blood War เปิดฉากสงครามเลือดพันปี จัดให้ถึงใจตั้งแต่ตอนแรก
• บ้านผีปอบ reformation ปอบหยิบแค่เห็นหน้าก็ไม่ต้องเดาว่าใคร ดูได้ที่ทรูไอดี
• SUPER MARIO BROS: THE MOVIE ลุงหนวดและพ้องเพื่อนเตรียมลงจอยักษ์ เมษายน 2023
• รีวิว My Hero Academia Season 6 สงครามทัพปลดปล่อยพลังพิเศษ
• เมี่ยงทะเลหมูสามชั้น เมี่ยงแซ่บรสเด็ดทานง่ายได้ประโยชน์
• เที่ยวฟาร์มกลางกรุงเทพ Sansiri Backyard at T77 Community เก็บผลผลิตจากฟาร์มปลอดสารพิษ

รอบนี้มีจ๊อบ 3 บทความ เขียนเอง 7 บทความ รวม 10 บทความ เดือนเดียวได้เท่านี้น่าเศร้าใจนัก

สรุปเดือนตุลาคมยังไม่ผ่านขั้นต่ำที่ตั้งใจไว้ 2,000 บาทพยายามต่อไป ข้อผิดพลาดที่ทราบดีและไม่สามารถแก้ไขได้ในเดือนก็คือการที่ไม่ได้เขียนบทความลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถ้าขยันก็ควรร่าง ๆ เตรียมไว้ แล้วโพสต์ส่งอย่างน้อยวันละบทความ หรือในอาทิตย์หนึ่งควรมีไม่ต่ำกว่า 5 บทความ เพื่อความต่อเนื่องในยอดวิวที่จะปัง นี่ที่ได้เงินนี่อานิสงค์จากบทความเก่า ๆ ล้วน ๆ เลยจ้า ที่โพตส์ใหม่นี่ยอดวิวต่ำมากท้อใจเลยเอาเถอะเขาบอกว่าให้ทำในสิ่งที่รักแล้วผลกำไรจะเป็นตัวแถมมาเอง นี่เราดันตั้งใจเอากำไรโดยไม่ค่อยได้ใส่ใจความรักลงไปมากนักเลยเป็นงี้แหละนำจำไว้

วิธีคำนวณดอกเบี้ยรถใหม่ 2566 เปรียบเทียบแบบไหนคุ้มค่ากว่ากัน คำนวณด้วย Excel

มาดูกันครับ วิธีคำนวณดอกเบี้ยรถใหม่ 2566 เปรียบเทียบแบบไหนคุ้มค่ากว่ากัน คำนวณด้วย Excel หลังจากมีราชกิจจาฯ มีผลบังคับใช้อีก 90 วัน ในวันที่ 11 ม.ค. 2566 คนที่คิดซื้อรถช่วงนี้คงกำลังตัดสินใจไม่ถูกว่าจะซื้อเลย หรือรอก่อนดีนะ ผมลองทำตารางคำนวณเพื่อเปรียบเทียบดูว่าแบบไหนจะคุ้มค่ากว่ากันตามนี้เลยครับ

ต้องบอกก่อนว่าเป็นการคำนวณแบบง่าย ๆ เพื่อทำความเข้าใจเท่านั้น และเน้นไปที่การซื้อรถยนต์ใหม่ครับ เนื่องจากตัวผมเองก็อยู่ในช่วงมองหารถใหม่อยู่เหมือนกัน ทั้งนี้ การคำนวณดอกเบี้ยของแต่ละบริษัทจะมีสูตรคำนวณแตกต่างกันไป เช่น จำนวนวันในงวด  บางที่ก็ใช้ตามจริง บางที่ก็เป็น 30 วัน , จำนวนวันในปี บางที่ก็ใช้ 360 , 365 หรือ 364 แล้วแต่ โดยผมได้หยิบเอาดอกเบี้ยที่มีการโฆษณาในช่วงเดือนตุลาคม 2565 มาทำการเปรียบเทียบ แต่ผมก็คาดเดาไม่ได้ว่าในปี 2566 จะเป็นเรทดอกเบี้ยเท่าไหร่รู้เพียงแค่ว่าไม่เกิน 10% ต่อปีสำหรับรถใหม่ ซึ่งเทียบดูแบบไม่ต้องคำนวณก็พอทราบแล้วว่าถ้าดอกเท่ากันแบบใหม่ย่อมดีกว่าเพราะเราสามารถลดดอกได้ แต่ถ้าเรทดอกเบี้ยแตกต่างกันมาก ก็ต้องพิจารณากันอีกที

ผ่อนรถปี 2022 หรือ 2023 ดีน่ะตัวอย่างการเปรียบเทียบดอกเบี้ยรถใหม่ 2566 กรณีใช้ดอกเบี้ยเท่ากัน 

จากภาพผมใช้ข้อมูลตัวอย่างเป็นรถใหม่ราคา 500,000 บาท ระยะเวลาผ่อน 4 ปี (48 งวด) ดาวน์ที่ 25% เมื่อคำนวณดอกเบี้ยคงที่ต่อปี (Flat Interest Rate) เทียบกับดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี (Effective Interest Rate) จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่าการคำนวณแบบใหม่นั้นดีกว่าทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นค่างวดที่ผ่อน ดอกเบี้ยรวมที่จ่าย และยอดจ่ายจริงทั้งหมด น้อยกว่าแบบเดิมอย่างเห็นได้ชัด แต่มันจะใช่แน่รึเขาคงไม่ปล่อยดอกแสนหวานแบบนี้ให้เราใช้หรอก มาลองดูความจริงกันดีกว่า

ผ่อนรถปี 2022 หรือ 2023 ดีน่ะ ดอกเบี้ยที่แท้จริงตัวอย่างการเปรียบเทียบดอกเบี้ยรถใหม่ 2566  

จากข้อมูลเดิมในตัวอย่าง เปลี่ยนดอกเบี้ยตามอัตราที่ธนาคารทิสโก้ประกาศไว้กรณีรถใหม่ ดอกเบี้ยคงที่ 4.75% ดอกเบี้ยแท้จริง 8.8% แหมนี่ก็ถือว่ายังไม่เกินจากที่กำหนดนะจะเห็นว่า ให้ผลออกมาพอ ๆ กัน หรือเท่ากันนั้นแหละ แต่มีข้อดีกว่าตรงที่มันโปะได้ไงเพื่อลดดอก เพราะงั้นสายโปะค่างวดต้องชอบแน่นอน ส่วนคนที่ตั้งใจผ่อนยาว ๆ ไม่มีโปะก็เรียกว่าไม่เห็นถึงความแตกต่างไงครับ

ผ่อนรถปี 2022 หรือ 2023 ดีน่ะ ยิ่งโปะยิ่งคุ้มตัวอย่างการเปรียบเทียบดอกเบี้ยรถใหม่ 2566 ยิ่งโปะยิ่งคุ้ม  

จากตัวอย่างจะเห็นว่าถ้าเป็นดอกใหม่ยอดผ่อนเราสามารถโปะได้ ยิ่งโปะเยอะยิ่งลดดอกเยอะ ใครถูกหวย ได้เงินโบนัสก็เอามาโปะ จากตัวอย่างโปะไป 20,000 บาท ก็ได้ส่วนลดดอกเบี้ยคุ้มแล้ว ดอกลดจากเดินไปเกือบ 8,000 บาท แต่ถ้าเป็นแบบกู้บ้านจะเห็นว่าเขาจะล็อกไว้ไม่ให้เราปิดยอดใน 3 ปี ก็ต้องดูในรายละเอียดต่อไปว่าจะเป็นยังไงสำหรับการซื้อรถใหม่ในปี 2566 นี้ ผมก็ได้แต่คาดเดาไปไม่ใช่จากประสบการณ์จริง ซึ่งรายละเอียดจริงจะมีการคำนวณที่ละเอียดยิ่งกว่านี้หลายส่วนนี้เป็นเพียงตัวอย่างแบบง่าย ๆ ให้พอมองเห็นภาพเท่านั้น

แจกตัวอย่างไฟล์คำนวณผ่อนรถใหม่ 2566

ลองเอาไฟล์โหลดไปคำนวณเล่นกันดูได้เลยครับ วิธีใช้คือแก้ไขเฉพาะตัวเลขในช่องสีเหลือที่ทำไว้ให้ครับ ส่วนช่องอื่นจะใส่สูตรให้แล้ว ก็ลองเอาไปปรับใช้ดูครับ น่าจะช่วยให้วางแผนการซื้อรถได้ง่ายขึ้นครับ

ผ่อนรถปี 2022 หรือ 2023 ดีน่ะ ตัวอย่างจริงตัวอย่างการเปรียบเทียบดอกเบี้ยรถใหม่ 2566 โปรที่ผมแอบเล็งไว้

 ผมเห็นรถบางรุ่นที่โฆษณาดอกเบี้ยต่ำ 0.99 ผ่อน 48 งวด ดาวน์ 25% ขั้นต่ำ เลยลองเอามาคำนวณด้วย ปรากฎว่าดอกถูกมาจ้า แต่ต้องผ่อนหนักหน่อยนะหมื่นห้า เทียบกับถ้ารอช่วงปีใหม่ 2566 คงไม่ได้ดอกเท่านี้แน่นนอน คำนวณแล้วถ้าใครมีกำลังผ่อนไหวก็ต้องรีบจัดภายในปีนี้แล้วแหละ 

สรุปซื้อรถใหม่ปีนี้ หรือปีหน้า ดีน่ะ

จากที่คำนวณดูแล้วจะเห็นว่าก็ขึ้นอยู่ที่ดอกเบี้ยเป็นหลัก ถ้าจะซื้อปีนี้ต้องหาดอกเบี้ยต่ำ ๆ อย่างน้อยก็ต้องไม่เกิน 2-3% แหละ เพราะดอกเบี้ยปีหน้าจะอัพได้สูงสุดที่ 10% เลยซึ่งถ้าดูตามการคิดดอกในปีนี้ก็จะอยู่ที่ 5-10% เป็นหลัก แต่จะเหมาะกับสายชอบโปะเงินงวด งานนี้คุ้มแน่นอน เพราะยิ่งโปะดอกยิ่งลด ส่วนสายชอบผิดนัดนี่ผมว่าอย่าฝืนดีกว่า ถึงจะคิดค่าปรับแค่งวดที่จ่ายทำให้โดนปรับน้อยลงก็เถอะ แต่แสดงว่าเรายังไม่พร้อมเป็นหนี้อย่าเสี่ยงดีกว่า สำหรับคนที่พอจะจ่ายไหวต่อเดือนก็น่าจะเลือกได้ไม่ยากแล้วแหละ ส่วนตัวผมที่มองหาผ่อนงวดยอดต่ำ ๆ เป็นหลักเพื่อไม่ไหวจ่ายก็ชอบแบบใหม่นี่แหละเพราะถ้ามีกำลังเอามาโปะก็จะได้ลดไปอีกดอก สุดท้ายการคิดซื้อรถต้องเตรียมพร้อมให้ดีเพราะนอกจากเงินผ่อนแล้วยังมีค่าบำรุงรักษา ค่าเชื้อเพลิง ค่าภาษีรายปี และอีกหยิบหย่อยที่จะทำให้เราเสียทรัพย์ก็เตรียมกำลังทรัพย์กันไว้ให้ดี หวังว่าจะได้ประโยชน์จากบทความนี้ครับ

 

รีวิว แขนกลคนแปรธาตุ: ปัจฉิมบท เปิดฉากสงครามสุดท้ายอลังการ

 

ผมไปอยู่ไหนมาเนี่ยเพิ่มมาเจอเรื่องนี้ แขนกลคนแปรธาตุ: ปัจฉิมบท เอาจริงๆ ก็ไม่ค่อยอินกับภาคคนแสดงเท่าไหร่ แต่พอได้ดูเห้ย มันดีกว่าที่คิด นักแสดงญี่ปุ่นนี่เก่งมากเลย แต่ละตัวก็มีเอกลักษณ์ที่แบบชอบมาก ความแต่งคอสเพลย์ก็ดูดีให้อารมณ์ตัวละครการ์ตูนตัวนั้นเลย ตอนแรกก็งงอยู่ว่าโผล่มาก็บู๊เลยหรือ ที่แท้นี่มันภาคสุดท้ายแล้ว มันมีอีกสองภาคก่อนหน้านี้ โธ่วแล้วภาคสุดท้ายใช้ชื่อปัจฉิมบทนี่น่ะ หรือผมจะแปลไทยผิดหว่า 

คนที่แสดงเป็นเอ็ดนี่น่าตาดีมาก แต่ดูตัวบางไปหน่อยในการ์ตูนจะดูอวบกว่านี้ ตัวละครอื่น ๆ เอาจริงก็จำไม่ค่อยได้มากแล้วเพราะอ่านจบไปนานมากแล้วสำหรับเรื่องนี้ เรื่องราวความซับซ้อนของตัวละครในหนังฉบับคนแสดงเล่าแบบเบื้องต้นไม่ได้ลงรายละเอียดมากนัก แต่ผมชอบการแต่งตัวคอสเพลย์ของทุกตัวเลยทำให้เหมือนตัวการ์ตูนนั้นเลย แถมการแสดงก็สุดยอดมากโดยเฉพาะคู่พี่น้องอาร์มสตรอง

ถ้าใครไม่เคยดูภาคก่อน ๆ มาก่อน หรืออ่านการ์ตูนมาก่อนก็คงจะงงกับศัพท์เฉพาะของเรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็น โฮมุนคุลุส ศิลานักปราชญ์ ขนาดผมอ่านมาก่อนแล้วยังระลึกความทรงจำไม่ค่อยได้เลยช่วงต้นเรื่องเลยงง ๆ อยู่พักนึง แนะนำให้ไปดูสองภาคก่อนหน้านี้ซะก่อน 

อีกเรื่องคือเรื่องชื่อตัวละครที่แสนจำยาก ผมจึงจำได้แค่ลักษณะของตัวละครเป็นส่วนใหญ่ เรียกว่าจำชื่อได้แค่พระเอกคนเดียวเองชื่อเอ็ด มีน้องเป็นเกราะเหล็ก มีพ่อเป็นต้นตอของเจ้าฝุ่นดำในหลอดแก้วที่หลอกหลอมตัวเองขึ้นมา และกำลังจะหลอมประเทศนี้เพื่อเป็นร่างเดียวกับพระเจ้า 

ด้านงานภาพ และ CG ดูกร่อย ๆ ไปหน่อยสงสัยงบน้อยหรือป่าว ไม่ค่อยโชว์มากเท่าที่ควร แถมมีบางช่วงรู้สึกได้ว่ามันขัด ๆ ใจอยู่น่ะภาพอ่ะ แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกฉากประกอบก็พอยอมรับได้ เพราะ CG ของตัวละครหรือการออกท่ายังคงทำได้ดีอยู่ แต่เหมือนไม่ค่อยปล่อยท่ากันเท่าไหร่แหะ

โดยรวมสนุกเกินคาดหมาย รับคะแนนไป 7/10 รายละเอียดเยอะแยะในมังงะเอามาย่อเหลือแค่นี้ทำได้ดีเลย ตัวละคร เสื้อผ้าทำได้โดนใจมาก CG ยังมีความขัดใจเป็นบางช่วง บทบาทก็แสดงชอบมาก เนื้อหาการเล่าเรื่องยอมรับได้ ส่วนตัวหนังที่เป็นการเอาการ์ตูนมาทำเป็นคนแสดงผมคาดหวังกับการแต่งคอสเพลย์กับการใช้ CG ปล่อยท่าพลังนี่แหละ ส่วนเรื่องการเล่าเรื่องเนื้อหาสคริปออกสั้น ๆ เพื่อความเข้าใจก็เพียงพอแล้ว อีกอย่างนักแสดงญี่ปุ่นนี่เวลาดูแล้วจะรู้สึกอารมณ์ดียังไงก็ไม่รู้สิ

รีวิว แบล็ก อดัม Black Adam เต็มสิบไม่มีหัก

แบล็ก อดัม หนังฮีโร่จักรวาน DC เอาจริงผมไม่ค่อยรู้จักใครมากหรอกค่ายนี้ นอกจากซุปเปอร์แมน กับ แบคแมนแล้วอ่ะ แต่ที่มาดูเรื่องนี้เพราะนักแสดงนำ ดเวย์น จอห์นสัน (Dwayne Johnson) ผมชอบแกตั้งแต่ เจอร์นีย์ จูแมนจี้ แล้วล่ะ 

หนังเปิดเรื่องมาด้วยการเล่าเรื่องราวปูพื้นแบบกระชับ ๆ ละมีตัดสลับไปมาโดยค่อย ๆ เฉลยปม ซึ่งก็เดาไม่ออกแหะ ผมทายผิดอ่ะ แต่คนอ่านคอมมิกมาคงรู้หมดอยู่แล้ว ปมในใจฮีโร่นี่เขาต้องมีกันหมดเลยรึ แถมโผล่มาก็ฆ่าแบบไม่ต้องพูดจากันสักคำเลย แต่ก็แอบงงที่ทำไมถึงไม่ทำร้ายคนเปิดผนึกน่ะ หรือว่าจะรับรู้ได้ว่าคือลูกหลานจากเผ่าเดียวกัน

ด้านงานภาพ และ CG สมแล้วจัดเต็ม โทนสีออกไปทางฟ้า แต่ผมหงุดหงิดเรื่องนึงคือแสงสีฟ้าแบบกระพริบใส่ตาไม่รู้เป็นที่โรงหนังหรือจงใจใส่ไว้เพราะมีตลอดเรื่องตั้งแต่เปิดผนึกไปจนเครดิตจบเลย รู้สึกลำคาญที่มันแยงตา จะว่าเป็นที่โรงก็ไม่น่าใช่เพราะตอนดูตัวอย่างมันไม่มีแบบนี้ หรือใครดูโรงไหนแล้วเจอร์แบบเดียวกันบ้างรู้สึกยังไงกันครับ

แบล็ก อดัม Black Adamด้านตัวละครฮีโร่อื่น ๆ ที่มาสมทบ ก็เท่ห์กันทุกคนเลยแหะ เว้นพี่ยักษ์เหมือนเป็นตัวฮาความรู้สึกคือไอ้แมงมุมผสมฮักค์ ส่วนสาวพลังลมน่าสนใจมาก พลังดูมีสีสันและทำอะไรได้มากมาย ระดับนาโนกันเลย ส่วนพี่หมวกเห็นอนาคตอารมณ์เดียวกับหมอแปลกเลย ส่วนที่นกที่เป็นผู้นำทีมนี่เอาเรื่องเลยละก็แอบชอบอยู่น่ะ เพียงแต่ฝีมือไม่ถึงอ่ะไม่ได้มีฉากให้โชว์ของเท่าไหร่โดนซ้อมมากกว่า

แบล็ก อดัม Black Adamเอาจริงบทมันก็ได้อยู่น่ะแต่ผมแบบล่องลอยไม่ค่อยอินเท่าไหร่ แต่ฟินกับพระเอกมากกว่า แสดงได้เท่ห์มากเลย ตัวใหญ่โครตนี่เขาใส่ CG ไปเพิ่มให้ดูใหญ่ขึ้นอีกด้วยหรือป่าว แล้วก็จบเรื่องตามสไตล์ต้องมีฉากท้ายเครดิต ซึ่งก็ไม่ได้จะสปอย์อะไรน่ะ แค่อยากจะบอกว่าอยากดูซุปแมนจังเลย เหมือนตอนจัสตินลีก ก็คงมีภาคที่รวมฮีโร่ ก็คาดหวังว่าจะได้เห็นซุปเปอร์แมนกับแบล็ก อดัม มาร่วมกันต่อสู้ปกป้องโลกน่ะ ไม่ใช่มาตีกันเองแบบตอนแบทแมน สำหรับเรื่อง แบล็ก อดัม รับคะแนนไปเต็มสิบไม่มีหัก 10/10

รีวิว LEIO ไลโอ โคตรแย้ยักษ์ เสียดายไม่ได้ดูในโรง สนุกนี่นา

ช่วงที่หนังไคจูสัตว์ยักษ์ของไทยกำลังเข้าโรงอย่าง LEIO ไลโอ โคตรแย้ยักษ์ ไม่ได้มีโอกาสเข้าไปดูในโรง จนหนังเข้าฉายผ่าน Netflix เลยพอมีเวลาได้ดูอยู่บ้าง ดูแบบไม่ได้คาดหวัง เพราะอ่านรีวิวมาก็เยอะ ก็ได้แต่ทำใจ แต่ก็อยากเห็นว่าไทยเราทำได้แค่ไหน ดูไปดูมาก็รู้สึกว่ามันก็ไม่ได้แย่นี่นา สนุกออก สนุกยังไงมาดูกัน

งาน CG ของ LEIO ไลโอ โคตรแย้ยักษ์ ที่เข้าขั้นยอมรับได้ คือไม่ได้เนียนจนแยกไม่ออก แต่ก็ไม่ได้ขัดตาจนไม่เข้ากับบริบทของเนื้อหาหรือการแสดงของตัวละคร เรียกว่าทำออกมาได้เข้ากันดี แถมตัวแย้ยักษ์เองก็เปิดตัวมาตั้งแต่ตัวอย่างหนังแล้วความสามารถอะไรบ้างก็เดาได้แถบหมด มีแค่จุดอ่อนของมันที่เป็นอีกจุดหลักของเรื่องที่เรียบเรียงเล่ามา

ตัวละครหลักได้ กอล์ฟ-พิชญะ และ ฟาง FFK มาเล่นคู่กัน วัยรุ่น 90 ก็ถูกใจสิ่งนี้แหละเลือกมาได้ดี กอล์ฟเล่นดีนะสำหรับเรา ฟางก็ดูเป็นอีกลุคนึงไปเลย นอกจากตัวเอกแล้วยังเต็มไปด้วยนักแสดงอีกหลายคนที่บางคนแค่เห็นหน้าก็ฮาแล้ว แม้ในด้านบทแจกมุกยังตึง ๆ ไปบ้างแต่ก็ทำให้ยิ้มและขำได้เบา ๆ 

ด้านบททำได้ดีไม่หนักไม่เบาไป ผมว่ากำลังดีลงตัวเลย เนื้อเรื่องจะเป็นภาคอีสานที่แห้งแล้งต้องขุดหาน้ำบาดาล มีการใส่เกร็ดความรู้มาด้วยก็แอบหาวนิดหน่อยฮา ไม่ค่อยเข้าหัว แต่ก็เป็นการผูกเรื่องและปมในใจของตัวเอกที่แบบง่ายๆแค่นี้เองหรอ? แต่ก็กระชับดีไม่ต้องมากความ ตัวเอกทั้งคู่เกิดที่นี่ และแยกย้ายกันไปเติบโตก่อนจะกลับมาจัดกิจกรรมชิงรางวัลเพื่อหาคนขุดเจอน้ำได้ก่อน แน่นอนว่าสิ่งที่ได้เจอไม่ใช่น้ำแต่เป็น LEIO ไลโอ โคตรแย้ยักษ์ เอาจริงตั้งแต่ต้นเรื่องก็เปิดตัวมาอย่างน่ากลัวอยู่แต่มีแอบใส่มุกมันเลยไม่โหดจัดเหมือนกักไว้เป็นหนังสำหรับทุกวัย ช่วงต่อสู้ก็ทำเอาลุ้นได้อยู่ แถมลืมเรื่องจับผิด CG ไปเลย ไม่รู้ว่าเพราะดูจอทีวีเลยไม่เห็นความต่างหรือป่าว ทำเอาเสียดายที่ไม่ได้เข้าไปดูในโรงเหมือนกัน

สรุปคะแนนสำหรับ LEIO ไลโอ โคตรแย้ยักษ์ ผมให้ 8/10 ถือเป็นหนังที่ดีเรื่องหนึ่งเอาจริงสามารถทำภาคต่อก็ยังได้น่ะ แต่ก็ขอให้พัฒนา CG ให้สมจริงยิ่งขึ้นไปด้วยเลย ในความรู้สึกผมยังเห็นว่าโชว์ตัวน้อยไปนิดถ้าเพิ่มลูก ๆ ของมันเข้าไปอีกน่าจะดี หรือเน้นไปทางซีเรียสแนวเอาตัวรอดจากสัตว์ยักษ์จัด ๆ ไปเลยก็น่าจะตื่นเต้นเร้าใจได้มาก แต่อย่างว่าทำให้คนไทยดูต้องติดตลกไว้ก่อนจะไปแนวอื่นก็จะขาดทุนเอาได้ ออกมาแบบนี้ก็ถือว่ากำลังดี ขอให้มีภาคต่อไปหรือหนังแนวนี้ออกมาอีกเรื่อย ๆ ครับ

Bleach : Thousand Year Blood War เปิดฉากสงครามเลือดพันปี จัดให้ถึงใจตั้งแต่ตอนแรก

เริ่มฉายเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2565 กับอนิเมะ Bleach : Thousand Year Blood War หรือ เทพมรณะ สงครามเลือดพันปี ซีซัน 8 เปิดตัวด้วยฉากต่อสู้แสนเร้าใจของพระเอกหัวส้ม กับปริศนาของกลุ่มคนลึกลับที่มาประกาศสงครามครั้งนี้ เรียกว่าทำออกมาได้ดีสมการรอคอย เป็นการเปิดฉากสงครามเลือดพันปีได้อย่างถึงใจตั้งแต่ตอนแรกกันเลย

Bleach Thousand Year Blood Warงานภาพของ  Bleach : Thousand Year Blood War ทำออกมาได้ดีมากต่อเนื่องลื่นไหลไม่รู้สึกสะดุดกับฉากเคลื่อนไหว ยิ่งฉากต่อสู้ทำแสงสีออกมาได้ตื่นตา ทำให้เพิ่มความฟินจากที่จินตนาการไว้ตอนอ่านมังงะเยอะเลย ยิ่งมีการเพิ่มฉากบางอย่างเล็กน้อยที่ในมังงะไม่ได้กล่าวถึงยิ่งทำให้รู้สึกดีไม่เหมือนกันจนเกินไปทำให้มีอะไรได้คิดเพิ่มเติมจากที่เคยเดาไว้

บังไค GETSUGA TENSHOบังไค Bleach : Thousand Year Blood War ตอนแรกก็โชว์บังไค กันเลยพระเอกหัวส้ม เก็ทสึงะ เท็นโช ร่างนี้ดูเท่ห์มาก รอดูของหัวหน้าหน่วยแต่ละหน่วยเลย ว่าจะเท่ห์อลังการกันขนาดไหน แทนจะอดใจรอไม่ไหวแล้ว ดูจากจำนวนตอน 13 ตอนที่จะปล่อยแล้วก็น่าจะไปถึงการต่อสู้ของเก็นริวไซหัวหน้าหน่วย 1 แห่ง 13 หน่วยพิทักษ์ด้วยไหมนะรอลุ้นเลย

หัวหน้าหน่วย 13 หน่วยพิทักษ์เสียงพากย์/ซับไทย Bleach : Thousand Year Blood War ก็จักกะจี้หูดีนะไม่ค่อยได้ฟังญี่ปุ่นเท่าไร ปกติจะดูพากย์ไทยเพราะไม่ชอบอ่านซับ แต่ทรูไดดีทำซับตัวใหญ่มากอ่านสบายตา ตัวหนังสือหนาไม่ต้องเพ่งมาก ดูในจอมือถือ หรือจอทีวีก็อ่านได้สบาย ตรงนี้ชอบมาก และด้วยความที่ไม่ค่อยได้สนเรื่องเสียงพากย์เท่าไรก็มักจะปิดเสียงแล้วอ่านซับเอา แอบดูเงียบๆได้สบายเลย แต่ฉากต่อสู้ก็ต้องเปิดเสียงเอาเอฟเฟคเสียงช่วยบิ้วการต่อสู้ร่วมด้วยซักหน่อย เสียงประกอบทำให้เร้าใจเพิ่มไปอีก

บลีช เทพมรณะ สงครามเลือดพันปี ซีซัน 8 - ดูได้ที่ Trueid

บลีช สงครามเลือดพันปี ทรูไอดีติดตามรับชม Bleach : Thousand Year Blood War ดูผ่านเว็บหรือแอพทรูไอดีได้เลยฉายทุกวันจันทร์ เวลา 23:30 น. เห็นว่าจะมีพากย์ไทยในเร็ว ๆ นี้ด้วย แปลว่ารอไม่นาน ที่สำคัญดูได้ฟรีทุกเครือข่ายเลยนะ ส่วนใครอยากดูเรื่องราวก่อนหน้านี้ก็มีให้ดูแบบพากย์ไทยตั้งแต่ซีซันแรกจนถึงปัจจุบันกันเลย 

บ้านผีปอบ reformation ปอบหยิบแค่เห็นหน้าก็ไม่ต้องเดาว่าใคร

จำได้สมัยเด็กหนังกลางแปลงงานวัดจะฉายให้ชมตลอด บ้านผีปอบ จนจำติดตาว่าคนนี้แหละปอบหยิบท่าประจำตัวทำมือจกจก ในเรื่อง บ้านผีปอบ reformation ก็ได้นำปอบหยิบคนเดิมมาแสดง โดยเป็นการกลับมาสร้างต่อเป็นเรื่องราวใหม่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังจากที่ห่างหายไปหลายปีกับบ้านผีปอบ โดยล่าสุดเห็นว่าในปี 2023 จะมีภาคใหม่ให้ชมกัน แบบนี้ก็ต้องย้อนไปชมภาคล่าสุดกันซักหน่อย

หนังปี 2011 บ้านผีปอบ reformation เรื่องราวปอบหยิบที่หยิบมาทำใหม่ในปีนั้นโดยใส่เอาเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่มีอยู่ในปีนั้นเข้าไปเพิ่มความตื่นตาตื่นใจ ให้กับหนังผีแนวตลกวิ่งไล่จับ ที่มีการสร้างมาหลายภาค เรียกเสียงฮาได้เป็นอย่างดี ในภาคนี้ก็มีความพยายามเอามาเรียบเรียงสอดแทรกคำสอนการใช้ชีวิตต่าง ๆ เข้าไป โดยมีเส้นเรื่องเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนักโบราณคดีที่ถูกฆ่าตายและมีการอ้างว่าปอบเป็นผู้กระทำแล้วหยิบที่อยู่แถวนั้นก็ถูกมองว่าเป็นคนจัดการทำให้มีการวิ่งไล่จับกันตามสเต็ป แต่ในเรื่องราวของหนังยังมีอีกหลายมุมให้ได้คิดเกี่ยวกับปัญหาสังคมในสมัยนั้น ก็เป็นการสอดแทรกมาเพิ่มคุณค่าให้กับตัวหนัง แต่ก็ไม่ได้ตัดทอดความอาลงไป

บ้านผีปอบ Reformation ปอบหยิบมาแว้นปอบหยิบคนดีคนเดิม บ้านผีปอบ reformation เรื่องนี้ที่ขาดไม่ได้เลยคงเป็นนักแสดงหลักอย่างคุณ หน่อย ณัฐนี สิทธิสมาน เห็นหน้าก็รู้เลยว่าคนนี้แหละปอบแน่ ๆ ไม่ต้องสืบ ในแต่ละภาคก็จะมีการหักมุมไปมาให้ชวนหัว แต่การวิ่งไล่จับกับปอบหยิบยังไงก็ขาดไม่ได้เหมือนกลายเป็นเอกลักษณ์ของเรื่องไปแล้ว แถมยิ่งมีภาคใหม่ ๆ มาปอบหยิบก็จะมาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ  ที่จะบอกให้โลกรู้ว่าปอบไม่โง่นะใช้เทคโนโลยีเป็นหมด ปั่นจักยาน สเก็ตบอร์ด ขับรถ เหาะกลางอากาศ บังคับหุ่นยนต์ เขาทำได้หมด ถ้ามีภาคใหม่ ๆ ก็ต้องรอชมเลยว่าจะมาพร้อมเทคโนโลยีอะไร แถมตายยากซะด้วยปอบคนนี้ พอเห็นคุณหน่อยแสดงในเรื่องอื่น ๆ ก็อดคิดถึงบทปอบหยิบท่าประจำตัวไม่ได้เลย

มุกตลก บ้านผีปอบ reformation ความฮาของเรื่องนี้คงไม่พ้นการวิ่งไล่จับกันตามต้นฉบับของซีรีย์นี้ ในภาพจำฉากมุดโอ่งที่ลงไปเท่าไรก็ไม่เต็ม แต่ในภาคนี้เล่นเอามุกที่อยู่ในเทคโนโลยีเมื่อตอนนั้นเอามาขยี้อย่าง อาจารย์แผ่น ถ้าเป็นสมัยนี้คงเปิดทางยูทูปกันแล้ว เรียกว่าเป็นมุกที่มาพร้อมการเสนอขายสินค้า แต่ก็ยังได้ความอาไปอยู่ อีกทั้งยังใส่นักแสดงที่เป็นนักพากย์มาให้แฟน ๆ ได้อมยิ้มเพิ่มไปอีก ส่วนคนที่ไม่รู้จักก็คิดว่านักแสดงสมทบทั่วไป ก็จะได้รับความสนุกที่แตกต่างกันไป

บ้านผีปอบ รีฟอร์เมชั่น - ดูได้แล้วที่ทรูไอดี

บ้านผีปอบ Reformationบ้านผีปอบ reformation ดูได้แล้ววันนี้ที่ทรูไอดี ภาคก่อนหน้านี้อย่าง บ้านผีปอบ 2008 ก็มีให้ดูกันด้วย ไปรับชมความฮากันได้เลยครับ

บทความตามใจผู้เขียน แต่ไม่เอาใจคนอ่าน มีไว้เพื่อ

 หลาย ๆ บทความที่เขียนไปตามใจไม่มีแก่นสาร มันก็แค่การระบายของผู้เขียน ที่เขียนไปเรื่อยไร้แก่นสาร บางครั้งก็นั่งคิดทำไมต้องคอยเขียนบทความเอาใจคนอ่านด้วยขนาดนั้น เพื่อยอดวิว เลยตั้งชื่อสวยหรูตามหลัก SEO เพื่อให้มีคนหลงกดลิงค์เข้ามาอ่านบทความจะได้ยอดวิวไปหนึ่งวิว ทั้งที่เนื้อในไม่ได้มีสารประโยชน์อะไรเหมือน ๆ กัน ก็เหมือนการล่อหลวงเพื่อประโยชน์ส่วนตนนั้นแหละ

แล้วบทความที่ตามใจผู้เขียนไม่เอาใจคนอ่านจะมีไว้เพื่อ ก็คงเพื่อตอบสนองความต้องการคนเขียน ที่บางทีก็แค่อยากระบายเรื่องราวในหัวออกมาแล้วรอวันหนึ่งที่จะมีคนมาอ่าน มาแชร์ มาให้ความเห็น มาปฏิสัมพันธ์กันเฉกเช่นเพื่อนคุยกัน แลกเปลี่ยนแนวความคิด นิสัย รสนิยม ซึ่งกัน งานเขียนที่ไร้จุดประสงค์ก็เหมือนงานเขียนที่ไร้วิญญาณ ผมนี่ก็เปรียบเทียบมั่วไปหมด

เอาจริงแค่อยากระบายเพราะตัวเองก็เขียนไม่เก่งเลยเน้นเขียนสิ่งที่มันคิดวนอยู่ในหัวออกมาไว้ก่อน แล้วค่อยปรับแต่ง บางครั้งก็ตัดใจไม่ปรับอะไรแล้วโพตส์มันไปซะ ยิ่งช่วงเริ่มต้นนี่ไม่ต้องกังวลอะไรมากมายเพราะคนตามอ่านไม่มีอยู่แล้วจะมาแก้มื้อไหนก็ได้อยู่ 

แต่ถ้าเริ่มมีคนตามคงทำแบบเดิมไม่ได้อีกแล้ว เพราะกว่าจะกดเผยแพร่ลงไปได้ต้องคิดแล้วคิดอีกนั้นเพราะจำเป็นต้องใส่ใจกับผู้รับสาร ทั้งทีเราก็ไม่ควรทิ้งตัวตนของเรา ถ้านี่มันเป็นแนวทางที่ไปต่อได้เราก็ไม่ควรปรับแต่บทความเพื่อเอาใจผู้อ่านขนาดนั้นหรอก 

ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ที่เผยแพร่บทความนั้น ๆ ออกไป เพื่อธุรกิจ หรือเพื่ออะไร คงไม่มีใครตอบได้นอกจากตัวผู้เขียนเอง การสะสมฝีมือ ประสบการณ์ ผลงานในแต่ละวัน มันคือการสร้างตัวตนอย่างหนึ่งของเรา เมื่อมองย้อนกลับมาเราก็จะเห็นความพยายามในการเปลี่ยนแปลงตัวเราเองในรูปแบบต่าง ๆ สิ่งพวกนี้แหละมีแต่เราผู้เขียนที่จะย้อนมองไปเก็บเกี่ยวได้ ผู้อ่านถ้าเขาไม่ถูกจริตก็แค่นาน ๆ เจอกันที ค่อยเวียนว่ายมาทักทายกัน 

สุดท้ายแค่อยากจะบอกกับตัวเองว่า "อย่าพยายามเป็นคนอื่น และไม่ต้องพยายามเป็นตัวเอง แค่ปล่อยให้มันเป็นอย่างที่ควรจะเป็น" จำไว้นะ การเขียนไปเรื่อยก็สามารถพัฒนาได้ 

ด้วยว่าช่วงนี้คนติดตามคงไม่มีเยอะก็จะเน้นเขียนเพื่อตัวเองไว้มีผู้ติดตามจำนวนหนึ่งค่อยว่ากันจะไปทิศทางไหน เรื่องงานเขียนคงไปได้หลากหลายอยู่แล้ว ฝึกต่อไป ซ้อมต่อไป ทุกวันคือการเรียนรู้ 

คนที่ไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือจะมาเขียนหนังสือจะไปได้ซักแค่ไหนก็ต้องลองดูแล้วละ เป้าหมายหนังสือสักเล่นจากบล็อกนี้จะพอเป็นไปได้ไหม ใช่แล้วทำให้ได้นั้นแหละแผน แค่ลงมือทำแค่นั้นไม่ต้องคิดเยอะ ทำมันซะ

SUPER MARIO BROS: THE MOVIE ลุงหนวดและพ้องเพื่อนเตรียมลงจอยักษ์ เมษายน 2023

 SUPER MARIO BROS: THE MOVIE เชื่อว่าเด็กยุค 90 ต้องรู้จักและอยากดูหนังแอนิเมะชั่นเรื่องนี้กันอย่างแน่นอน ประกาศฉายวันที่ 6 เมษายน 2023 ปีหน้านี้แล้ว ซึ่งล่าสุดได้ปล่อยตัวอย่างให้ชมเป็นน้ำจิ้ม เรียกว่าน่าดูมาก งานภาพไม่ต้องผิดหวังอยู่แล้ว ที่เหลือคือเรื่องบท กับการพากษ์นี่แหละ ผมนี่พอได้ชมตัวอย่างก็ตื่นเต้นมากเลย อยากจะวาร์ปไปปีหน้าเสียเดี๋ยวนี้แทบตั้งตารอไม่ไหว

SUPER MARIO BROS THE MOVIESUPER MARIO BROS ตั้งแต่สมัยเด็กผมก็รู้จักเกมอย่างมาริโอ้จากเครื่องแฟมิคอมต่อเล่นกับทีวีกับเพื่อน ๆ และญาติ ๆ เป็นเกมที่สนุกมากเลย แนวตะลุยด่าน เพื่อไปช่วยเจ้าหญิง สู้กับบอสเต่ายักษ์พ่นไฟ มาทราบทีหลังว่าชื่อ บาวเซอร์ ตัวละครเราเล่นได้สองตัวคือ มาริโอ้ กับ ลุยจิ เล่นสลับกันไปช่วยเจ้าหญิงพีช ซึ่งมักโดนจับไปตลอด ทำให้เราได้ผจญภัยในโลกของมาริโอ้ หลังจากนั้นยังมีเกมส์มินิที่มีตัวละครของมาริโอ้มาให้เล่นกันอีกมากมายนับไม่ถ้วนเลย

The Game & Watch Super Mario BrosSUPER MARIO BROS: THE MOVIE ตัวอย่างที่ปล่อยออกมาทำเอาน่าตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ที่ผ่านมาผมยังไม่เคยดูหนัง หรือการ์ตูนที่สร้างมาจากเกมของมาริโอ้เลย อาจเป็นเพราะไม่ได้ตาม หรือมีช่วงที่ผมเลิกเล่นเกมไปนานแล้ว มาครั้งนี้ได้ข่าวของหนังภาคนี้มันรู้สึกตื่นเต้นมาอาจเพราะทำให้คิดถึงเรื่องราววัยเด็กที่เคยเล่นเกมซีรีส์นี้มาหลายเกม ถึงจะไม่ค่อยคุ้นชินกับภาพ 3D เพราะสมัยผมเล่นจะเป็น 2D แต่เด็กสมัยนี้คงชินกับ 3D มากกว่าแหละ จากตัวอย่างทำให้ผมพลาดไปหลายตัวเหมือนกัน อย่างเพนกวินที่ออกมา กับ ตัวร้ายอีกตัวที่ใส่ชุดพ่อมด แต่ถึงอย่างนั้นผมก็คิดว่าหนังคงทำให้คนที่ไม่เคยเล่นมาริโอ้สนุกไปด้วยกันได้อย่างแน่นอน แค่เห็นฉากอนิเมชั่นก็เร้าใจมากแล้ว

SUPER MARIO BROS: THE MOVIE ที่จริงก็แอบคาดหวังให้เป็นแนวเดียวกับพวก Sonic the Hedgehog ที่เป็น CG รวมกับคนแสดง แต่เป็นอนิเมะล้วน ๆ ก็ดีเหมือนกัน เพราะถ้าเกิดเอาคนมาแสดงเป็นมาริโอ้คนจะไม่น่ารักเท่าตัวการ์ตูนแน่นอน แต่อย่างน้อยมีฉากที่มาวิ่งบนโลกจริงก็น่าจะพอได้อยู่น่ะ ดูจากตัวอย่างแล้วงานภาพหายห่วงได้เลย เหลือแค่งานบทจะถ่ายทอดให้อินกับเรื่องราวได้อย่างไรต้องรอชมในโรงแล้วละ

Mario 2022SUPER MARIO BROS: THE MOVIE กำหนดฉายวันที่ 6 เมษายน 2023 ปีหน้านี้แล้วเตรียมตั้งตารอเลย ผมว่าน่าจะเป็นหนังทำเงินอันดับต้น ๆ ไม่แพ้วันพีช โดราเอม่อน แน่นอน เหมือนตอนผมเล่นเกมนี้ก็ไม่คิดว่าตาหนวดคนนี้จะมีแฟนคลับเยอะได้ขนาดนี้ ไว้ได้มีโอกาสดูจบแล้วจะมารีวิวให้อ่านกันครับ

มื้อเช้าโรงแรมจัดเองได้ตามใจ

มื้อเช้าโรงแรมนี่ มันจะมีขนมปังปิ้งใช่ป่ะ แล้วก็มีพวกสลัดไรงี้ ส่วนอาหารเช้าก็มีกับข้าวแตกต่างกันไป เราก็จับมารวมกันเป็นแซนวิสซะเลย ราดซอสกินอร่อยดี อยากได้เนื้อสัตว์ปกติจะมีฮอตดอกแฮมให้ด้วย หรือจะไปจกเอาจากพวกเมนูผัดผัก อย่างอกไก่ แล้วแต่วัน กินแบบนี้มันอร่อยดีเป็นคำโต ๆ เคี้ยวมันส์ ๆ ถ้าอยู่บ้านทำเองอาจมีแค่อย่างเดียวไข่ดาว หรือไส้กรอก แนะนำทำได้ทุกโรงแรมเลย จัดไปตามชอบ ปริมาณตามใจ ที่สำคัญทำแล้วกินให้หมดด้วยละอย่าติดนิสัยกินทิ้งขว้างไม่ดีไม่เอา 

ใครมีไอเดียทำเมนูอะไรจากมื้ออาหารเช้าโรงแรมก็มาแชร์กันบ้าง เพื่อเอาไปทำกินดูบ้างจะได้ไม่เบื่อเมนูเดิม ๆ 

 

ได้เจอ NETA V ตัวเป็น ๆ ซักที น่ารักไม่เบานะเรา

 ยังคงให้ความสนใจอยู่รถ EV ราคามันก็เหมือนจะน้อย แต่ก็ยังสูงอยู่น่ะ ดูแล้วคันเล็กกระทัดรัดดี ขับคนเดียวก็เหมาะ ๆ อยู่นะ ไปใกล้ ๆ อย่างไปทำงาน ไปกลับ แต่คงต้องลงคำนวณค่าน้ำมันกับค่าไฟดูก่อนอะไรจะประหยัดกว่ากัน แต่ความน่าใช้ก็คงต้องคันนี้แหละ ของใหม่ขี้หมาหอมอยู่ละ

แต่ว่าก็ราคาพอ ๆ กับมิราจเลยน่ะ แถมมิราจปีนี้ออกแบบแต่งมาเท่ห์จัง ทำเอาเลือกยากเลย แต่ลืมไปไม่มีสิทธิ์เลือกนี่ไม่มีตัง 555+ ก็ดู ๆ ไว้ก่อนเพื่อถูกหวยรวยขึ้นมาจะได้ซื้อซะเลยจบ ๆ มิราจเคยใช้แล้วดีอยู่ ไม่เจอปัญหากวนใจเลย แต่เข้าศูนย์ก็แพงอยู่นะเปลี่ยนอะไหล่ตามรอบ พอรถเกิน 7 ปี เปลี่ยนแต่ละรอบแพงจัด หนักไปทางค่าแรงด้วย

คันนี้รุ่นนี้ Haval เห็นเขาแนะนำกันว่าสุดในรุ่น ดูแล้วก็พอได้อยู่ไม่ถูกชะตามากแต่คันใหญ่พอสมควร เหมาะกับครอบครัวมากกว่า รู้สึกรุ่นนี้จะเป็นไฮบริด ก็น่าสนใจอยู่ ราคาไม่ถึงล้านแต่ก็เกือบ ไม่น่ามีหวังเท่าไหร่เคยซื้อแค่ไม่เกินหกแสน ตอนนี้อยากได้รถไฟฟ้าต่ำกว่าสามแสน จะมีบ้างไหม 

ดูแล้วยังอีกห่างไกลที่จะได้ซื้อ เก็บข้อมูลไปก่อน แต่ก็มีแผนอยู่ไม่เกิน สอง สาม ปีนี้คงได้จัดซักคัน รอดูอนาคตต่อไป 

เมี่ยงทะเลหมูสามชั้น เมี่ยงแซ่บรสเด็ดทานง่ายได้ประโยชน์

 เมี่ยงทะเลหมูสามชั้น เมนูทานง่ายรสเด็ด เมี่ยงแซ่บถึงใจ มีประโยชน์ต่อร่างกาย ใครก็ต้องติดใจ ตอนเด็กจำได้ว่าเมี่ยงนี่มันคือเมี่ยงคำห่อใบพูลกินกับเครื่องเคียงน้ำจิ้มรสหวานเป็นขนมอย่างหนึ่ง แต่เดี๋ยวนี้มีเมี่ยงแบบคาว เริ่มเห็นจากร้านปลาเผา เป็นพวกเมี่ยงปลาเผา มีเส้นหมี่ขาวกินคู่กันแสนอร่อย จากนั้นก็เริ่มไปเมี่ยงปลาทู เมี่ยงหมูสามชั้น เมี่ยงทะเล ส่วนตัวคิดว่าเมี่ยงที่อร่อยสุดคงไม่พ้นเมี่ยงหมูสามชั้นนี่แหละ ยิ่งได้น้ำจิ้มรสเด็ดด้วยแล้วบอกเลยร้านแตกแน่นอน ขายกันไม่ไหวแน่ พร้อมกินจัดไป

เมี่ยงทะเลหมูสามชั้น เมี่ยงแซ่บรสเด็ดทานง่ายได้ประโยชน์เมี่ยงทะเลหมูสามชั้น ชุดละ 100 บาท ขนาดสำหรับหนึ่งอิ่มต่อคน ผมเลือกกุ้งกับหมูสามชั้นมาแหละ เพราะจะกินแต่หมูเพียว ๆ ก็ไม่ไหวเกรงใจไขมันในเส้นเลือด แต่ด้วยความอยากจัดมาสักครึ่งแล้วกัน ว่าแต่เลือกคู่กับกุ้งนี้ใช่ทางเลือกที่ดีหรือป่าวนะ เอาเถอะเลือกมาแล้ว มารีวิวกันดีกว่า มันจะคุ้มค่าคุ้มราคาไหม อิ่มหรือป่าว รสชาติเป็นยังไง ต้องกินแบบไหน มาดูกันครับ

เมี่ยงทะเลหมูสามชั้น น้ำจิ้มรสเด็ดเมี่ยงทะเลหมูสามชั้น จุดเด็นอยู่ตรงที่น้ำจิ้มหลักนี่แหละ ร้านไหนทำน้ำจิ้มไม่ถึงหมดสิทธิ์เกิดได้เลย ส่วนของร้านนี้ผมบอกเลยว่าเด็ด ชอบน่ะ ส่วนตัวไม่ชอบกินเผ็ด ถ้าเอาราดแค่น้ำจิ้ม เราจะไม่รู้สึกว่าเผ็ดมาก มีรสเปรี้ยวนิดกำลังดี แต่ถ้าใครชอบเผ็ด ๆ ก็แค่ราดพริกในน้ำจิ้มลงไปด้วยจะได้เนื้อพริกเพิ่มความแซ่บลงไปอีก เรียกว่าปรับแต่ความเผ็ดได้ตามต้องการ ทำออกมาได้ดีเลย 

เมี่ยงทะเลหมูสามชั้น ห่อกุ้งเป็นคำเมี่ยงทะเลหมูสามชั้น วิธีกินแสนง่ายแค่เอาผักมาห่อทุกอย่างที่ใจต้องการ โดยผักห่อหลักจะเป็นใบผักกาดขาว กับผักกาดเขียว แล้วแต่ชอบส่วนผมชอบผักกาดขวามากกว่า เอามากางออกแล้วใส่ใบโหระพาดับคาว ใส่เส้นครั้งนี้เป็นเส้นขนมจีนลืมดู ปกติจะชอบเส้นหมี่ขาวมากกว่า แต่ขนมจีนก็กินได้อยู่ ใสหมูสามชั้น หรือเนื้อสัตว์ลงไป ราดน้ำจิ้มตามชอบเลย แล้วยัดใส่ปากเคี้ยวคำโต ๆ ฟินดีมากเลยครับ เมี่ยงทะเลหมูสามชั้น ห่อหมูเป็นคำ

เมี่ยงทะเลหมูสามชั้น ปริมาณของอาหารที่จัดมาในชุดเป็นแบบพอดิบพอดี ทั้งผัก ชิ้นเนื้อสัตว์ เส้นหมี่ หรือ ขนมจีน เรียกว่าถ้ากินจนหมดก็ได้หนึ่งอิ่ม ไม่มีจุก อยากได้จุกต้องเบิ้ล แต่ตอนกินไปเรื่อย ๆ เริ่มขี้เกียจห่อละเลยคิดว่าถ้าห่อมาแล้วน่าจะดีอารมณ์แบบกินซูชิหยิบจิ้มเข้าปากง่าย ๆ ดี แต่คิดอีกมุมสำหรับคนชอบเลือกกินนั้นไม่เอา นี่ไม่ชอบการจับมาห่อเองก็ถือว่าอิสระในการกินดีมากเลย แต่สัดส่วนอาจจะไม่พอดีก็ได้ถ้าเกิดไม่ได้แบ่งเท่า ๆ กัน ส่วนผมกินได้หมดเลยจัดแบบเท่า ๆ กัน เลยหมดเกลี้ยงพอดี ได้ไปหนึ่งอิ่ม ทีแรกเปิดกล่องมายังคิดว่าน้อยไปหรือป่าวจะมีอะไรเหลือไหมกินไปมาปรากฎว่าพอดีไม่มีเหลือ

เมี่ยงทะเลหมูสามชั้น หลากหลายเมนูตามชอบ เมี่ยงทะเลหมูสามชั้น ความคุ้มราคาในปริมาณถือว่าคุ้มอยู่ ถ้าเทียบกับการกินซูชิก็เหมือนซื้อสิบแถมหนึ่ง ผมลองนับชิ้นดูจะได้ 11 ชิ้นพอดี เท่ากับ 11 คำอิ่ม แถมยังได้ประโยชน์จากผัก ต่างจากซูชิที่ได้แค่โปรโยชน์จากเนื้อปลา ผมว่าเมนูเมี่ยงคำนี่ดีมากเลยส่งเสริมให้คนทานผักได้ง่ายขึ้น แถมเดี๋ยวนี้ก็มีผสมหลากหลายมากยิ่งขึ้น ถ้าให้เรียงตามชอบผมคงชอบปลาเผามากสุด รองลงมาก็หมูสามชั้น ซึ่งคนรอบตัวส่วนใหญ่จะชอบหมูสามชั้นมากกว่า เห็นว่ามีแบบหมูกรอบ หมูชาชู ด้วยคิดแล้วก็น่าอร่อย ใครที่เบื่อเมนูข้าวแล้วลองหาไปทานกันครับ

รีวิว My Hero Academia Season 6 สงครามทัพปลดปล่อยพลังพิเศษ

 มาแล้ว My Hero Academia Season 6 ฉายแล้วเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2565 กับการเปิดตอนด้วยการเริ่มสงครามทัพปลดปล่อยพลังพิเศษ ที่มีเหล่าวายร้ายสมาพันธ์วิลเลินเข้าควบคุมการบริหารทัพ ถือเป็นศึกครั้งใหญ่ของเหล่าฮีโร่ที่ได้รวมตัวกันทั้งประเทศญี่ปุ่นเพื่อยับยั้งแผนการร้ายในอนาคต งานนี้จะได้เห็นเหล่าโปรฮีโร่โชว์ฝีมือมากมาย แต่แท้จริงแล้วก็เป็นเพียงแค่เรื่องของ AFO (All For One) และ OFA (One For All) ที่ต่อสู้กันผ่านมาหลากหลายรุ่น หลายยุค หลายสมัย 

My Hero Academia Season 6My Hero Academia Season 6 EP 1 เปิดฉากสงครามแบบเงียบ ๆ โดยเหล่าฮีโร่ทั่วประเทศ เริ่มจากฮีโร่กระต่ายสายลุยอย่าง เมียร์โก ที่บุกทะลวงเข้าไปยังจุดเริ่มสงครามครั้งใหญ่ ทำเอาลุ้นระทึกตื่นเต้นมากเลย ตั้งแต่ EP ถัดไปก็จะบู๊กันยาวจนจบซีซั่นไปเลย เรียกว่าซีซั่นนี้จัดเต็มงานบู๊แน่นอน โดยคาดว่าจะเป็นการนำเอาเนื้อหาจากมังงะกลางเล่มที่ 26 - 31 มาทำ ใครที่อ่านมาแล้วคงรู้อยู่แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ที่คาดหวังคือฉากต่อสู้ของแต่ละช่วงนี้แหละ และก็รายละเอียดของบางฉากที่มังงะไม่ได้เล่าถึงรายละเอียดก็หวังว่าจะมีบอกกันในอนิเมะ

10 Pro Hero My Hero Academia Season 6โปรฮีโร่ My Hero Academia Season 6 ภาคนี้จะเน้นหนักไปทางโปรฮีโร่หลาย ๆ คนที่ได้โชว์พลัง โชว์ของให้ได้รู้กันว่าฮีโร่เจ๋งนะ นอกจากโปรฮีโร่ที่เคยแสดงตัวในซีซั่นก่อนหน้านี้ ที่ผมรอจับตาดูเลยก็มี ฮีโร่กระต่ายเมียร์โก นี่แหละ เจ้แกสายบู๊สุดกัดไม่มีปล่อยของจริง ส่วนที่เด่นเลยคือเอ็นเดเวอร์ สุดยอดฮีโร่อันดับหนึ่ง กับฮอว์ค ที่จะมาโชว์ของกันจนหมดก๊อกเลย ส่วนไอซาวะ อีเรเซอร์อาย นี้มีบทเด่นไปทุกภาคอยู่แล้วเหนื่อยหนักจริงคนนี้ กับคู่ที่รอดูเลยก็คือแฟตกัม 

ตัวเอกของเรื่อง My Hero Academia Season 6เด็กนักเรียน UA ฮีโร่ชั่วคราว My Hero Academia Season 6 แน่นอนว่าเดกุพระเอกของเรื่องที่ได้รับสืบทอดพลัง OFA ได้บทเด่นแน่นอนงานนี้จะทำร่างพังอีกซักแค่ไหนกันและจะดึงพลังมาใช้ได้กี่เปอร์เซ็น ส่วนเพื่อนคู่แข่งบาคุโกก็ไม่มีน้อยหน้าซีซั่นนี้มีโชว์บทเด่นอยู่นะ โชโตะหนุ่มสายไฟน้ำแข็งงานนี้ได้ร่วมสู้ไปพร้อมกับพ่อตัวเองฮีโร่อันดับหนึ่ง และเหล่าเพื่อนสมาชิกนักเรียนยูเอ พร้อมปฏิบัติการตามหน้าที่ของตนเองทุกจุด

วายร้ายสมาพันธ์วิลเลิน My Hero Academia Season 6สมาพันธ์วิลเลิน My Hero Academia Season 6 นำโดยชิกกี้ ที่พยายามอัพเกรดร่างของตัวเองให้พร้อมรับการสืบทอดจาก AFO โดยมีเป้าหมายในการชิงเอาพลัง OFA คืนมาเพื่อไม่ให้มีผู้ที่สามารถขัดขวางพลังของตนเองได้อีกต่อไป จึงทำให้ทั้งคู่หนี้ไม่พ้นการปะทะกัน เหล่าสมาชิกทั้งหลายต่างก็มีความลับ และปมในใจ ที่ถึงจะไม่ต้องคอยบอกกันแต่ทุกคนก็มีอิสระในการทำอะไรตามใจ โดยไม่สนเบื้องหลังที่มาของกันและกัน เป็นเหล่าตัวร้ายที่ยากจะเข้าใจเหตุผลการกระทำของพวกเขา และจุดประสงค์ร้ายของกลุ่มนี้

OFA VS AFO My Hero Academia Season 6ความคาดหวัง My Hero Academia Season 6 เรียกว่าเป็นซีซั่นที่เฝ้ารอเลยแหละเพราะคิวบู๊เยอะมาก ทั้งจับเป็นคู่ ทั้งจับเป็นกลุ่ม จะได้เห็นรายละเอียดการเคลื่อนไหว การคิด การอ่านเกมส์ และตัดสินใจ จะเหมือนที่จินตนาการไว้แค่ไหน มันตื่นเต้นมากเลย เป็นซีซั่นที่ถึงอ่านมังงะมาก่อนแล้วก็พลาดไม่ได้เลย มีหลายฉากมากที่ต้องรอดู มันทั้งบีบคั้น และยุ่งยากเสียจริง เตรียมปวดตับไว้ก่อนเลย เรียกว่าเป็นซีซั่นที่รวมเอาเหล่าฮีโร่มามากที่สุดแล้วก็ว่าได้ แถมการปะทะกันของ OFA และ AFO ครั้งนี้นำไปสู่จุดเปลี่ยนของเรื่องเลยด้วย

My Hero Academia Season 6 ติดตามได้ทางไหน แนะนำเลยเราดูผ่าน Netflix หรือจะดูผ่านช่องทางอื่น ๆ ก็ได้ มีหลายเจ้า เช่น TrueID , Bilibili , iQIYI , Prime video ตามดูได้ทุกวันเสาร์ เวลา 16.30 น. เป็นต้นไป ส่วนใครอยากย้อนไปดูซีซันก่อนหน้า แนะนำที่ทรูไอดี เพราะมีเป็นพากย์ไทย มายฮีโร่ อคาเดเมีย ซีซัน 1 - 5 พากย์ไทย  กว่าจะจบซีซันนี้ก็คงต้นปีหน้าแหละ มีอะไรให้ตามดูกันยาว ๆ แล้วทีนี้

เที่ยวฟาร์มกลางกรุงเทพ Sansiri Backyard at T77 Community เก็บผลผลิตจากฟาร์มปลอดสารพิษ

 มีโอกาสได้มาศึกษาดูงาน ณ ฟาร์มกลางกรุงเทพ Sansiri Backyard at T77 Community มีผลผลิตจากฟาร์มปลอดสารพิษให้เก็บด้วยตัวเอง หรือกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย เหมาะจะพาเด็ก ๆ มาศึกษาธรรมชาติมากเลย โดยเฉพาะเด็กในเมืองที่โตมากับตึกแถว ไม่เคยมีโอกาสได้เล่นกลางดิน กลางทราย ได้มาสัมผัสบรรยากาศบ้านสวน

 

แผนที่ภายใน ฟาร์มกลางกรุง Sansiri Backyardแผนที่ภายใน Sansiri Backyard มาถึงก็จะมีแผนที่บอกจุดต่าง ๆ ของฟาร์ม ผมเข้ามาถึงแดดร้อนไปหน่อย เพราะผมมาถึงตอนช่วง 10.00 น. และใช้เวลาเดินชมจนถึง 12.00 น. ร้อนมาก ต้องพกร่มหรือหมวกมาด้วย ขนาดมาในวันที่ฝนตกแต่แดดดันออกซะงั้น เลยกลายเป็นร้อนไปแทน พื้นที่กว้างมากแบ่งออกเป็นหลายโซน ผมเข้ามาตรงซุ้มดอกพวงชมพูสีขาว สีชมพู บานเต็มทางเดินลอดอุโมงค์ สวยงามเหมาะกับสายถ่ายรูปเลยละ ด้านในโซนแรกจะเห็นต้นไม้เยอะมาก ดอกไม้กำลังบานสวยงาม มีโซนแบ่งไปอีกมากมาย

อุโมงค์ดอกไม้ ฟาร์มกลางกรุง Sansiri Backyard

ฟาร์มกลางกรุงเทพ Sansiri Backyard ภายในมีอะไรบ้าง

 

บ่อปลาเบญจพรรณ ฟาร์มกลางกรุง Sansiri Backyardบ่อปลาเบญจพรรณ Sansiri Backyard เดินทะลุอุโมงค์มาก็จะเจอบ่อปลาเบญจพรรณลึก 5 เมตร เพราะเลี้ยงปลาแบบผสมในบ่อเดียวกันเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการใช้พื้นที่ โดยจะมีปลาสามชนิดคือปลาที่อยู่ด้านบน ตรงกลาง และด้านพื้นน้ำ เมื่อมีการให้อาหารก็จะทำให้ในแต่ละชั้นได้รับอาหารจากที่เหลือด้านบน ทำให้น้ำไม่เน่าเสีย มีโซนให้เดินไปชมปลาใกล้ๆ แต่ต้องระวังตกน้ำ ถ้าตกน้ำจะมีห่วงยางให้ใช้ช่วยเหลืออยู่ใกล้ ๆ บ่อ หนึ่งอัน ถ้าพาเด็กมาด้วยก็ต้องคอยดูให้ดีเพราะบ่อลึกมาก ไม่มีที่กั้นรอบบ่อ 

แพะและแกะ ฟาร์มกลางกรุง Sansiri Backyardแพะและแกะ Sansiri Backyard ใกล้กับบ่อปลาจะมีแพะ และ แกะ สามารถให้อาหารได้ ขนสวยสุขภาพดี เพราะได้กินอาหารออร์แกนิค ดูร่าเริงน่ารักมาก สร้างความเพลินใจยิ่งนัก เด็ก ๆ ต้องชอบมากแน่เลยกับมุมนี้

ไก่น่ารัก ฟาร์มกลางกรุง Sansiri Backyardโซนไก่ไข่ Sansiri Backyard มีกิจกรรมให้เก็บไข่ด้วยเสียตังนะ แต่ได้ไข่ไก่ที่รับประทานอาหารออร์แกนิค ก็จะดีกับสุขภาพไปอีก และระหว่างทางผ่านจะเป็นสวนผักผลไม้ เห็นมีต้นมัลเบอร์รี่ แต่น่าจะเลยช่วงเก็บเกี่ยวไปแล้วมีแต่ต้นไม่มีผลไม้ให้เก็บ ระหว่างเดินชมสวนก็เจอตัวอะไรดุกดิ๊กไปมา นึกว่าสุนักที่แท้ ไก่ซิลกี้ โอ้ยน่ารักมาก เดินกันสองตัวเป็นคู่มากันเลย ใครเดินมาเจอก็เป็นอันต้องขอเซลฟี่กับน้องหน่อย 

ผีเสื้อ ฟาร์มกลางกรุง Sansiri Backyardชมผีเสื้อ Sansiri Backyard เดินมาถึงโซนบ้านผีเสื้อ แต่วันนี้เขาปิดบริการ อดเลย ถ้าใครจะมาชมต้องเช็คเวลาก่อนนะ และก็มีค่าเข้าชมด้วยนะ ไว้วันหลังพาเด็ก ๆ มาดูต้องตื่นตาตื่นใจแน่ เพราะปกติไม่ค่อยได้เจอบ่อย หรือเจอแบบเยอะๆ แต่ก่อนพาเด็กเข้าไปต้องสอนเขาไม่ให้ทำร้ายน้องก่อนนะเดี๋ยวเผลอไปทำเขาบาดเจ็บจะแย่เอา

แนะนำการปลูกผัก ฟาร์มกลางกรุง Sansiri Backyardสอนการผสมดินปลูกผัก Sansiri Backyard ชอบตรงนี้มากเลยมีคนมาสอนผสมดินยังไงสัดส่วนเท่าไหร่ สามารถลองปลูกได้ด้วยนะ แต่เราแค่ฟังเฉยๆ ปกติปลูกอะไรไม่ค่อยขึ้นเท่าไหร่ เคล็ดลับอยู่ที่การผสมดินนี่เอง แต่ถ้าได้ความรู้มาแล้วไม่เอาไปใช้มันจะลืมหมดนะสิ ยังไงก็จดเอาไว้ก่อน แล้วหาเวลาไปทำตามนะ

แคนตาลูป ฟาร์มกลางกรุง Sansiri Backyardเก็บผักผลไม้ Sansiri Backyard ที่ฟาร์มสามารถเก็บผักผลไม้ได้มีค่าใช้จ่ายในการร่วมกิจกรรม และจะได้ผักผลไม้สดๆไปทานเลย อันนี้เป็นแคนตาลูป ใกล้ได้เก็บกินแล้วลูกใหญ่อยู่เหมือนกัน แต่หน้าตาจะไม่ค่อยสวยเท่าไร ก็เขาปลอดสารนี่ เพราะงั้นอร่อยปลอดภัยแน่นอน 

ปลูกข้าว ฟาร์มกลางกรุง Sansiri Backyardชมวิวการทำนา Sansiri Backyard เดินย้อนมาหน่อยเข้าทางเล้าเป็ดมีเป็ดหลากหลายพันธ์ด้วย น่ารักดี มีให้อาหารปลา กับเป็ด เดินขึ้นสะพานไม้ข้ามทุ่ง เจอคนกำลังดำนาเลย ไปแวะนั่งชม นั่งคุยกับเขาได้เลย แดดกำลังดีเลย มีเอาเพลงวิทยุมาเปิดสร้างบรรยากาศ มีหุ่นไล่กาด้วย บรรยากาศเหมือนอยู่กลางทุ่งเลย

สรุปความประทับใจ Sansiri Backyard ที่จริงมันก็ร้อนมากแหละในวันที่เรามาเช้าฝนตก พอฝนหยุดปุ๊บแดดออกปั๊ป ร้อนสุดเลย แต่เขาทำพื้นทางเดินดีอยู่ไม่แฉะจนเดินลำบาค ยังมีอีกหลายโซน เช่น โซนขายต้นไม้ มีต้นไม้สวยๆ เยอะเลย บ่อบัว มีเลนสำหรับเดินวิ่งออกกำลังกาย แต่เขาห้ามเอาจักรยานมาปั่นนะ รู้สึกชอบบรรยากาศ คิดว่าคนกรุงเทพน่าจะมาเที่ยวได้สะดวกกว่าไปต่างจังหวัด เราคนต่างจังหวัดยังอยากมาอีกเลย คราวหน้าจะพาลูกมาด้วย แถมที่นี่ยังมีผลผลิตจากไร่กำนันจุลมาวางขายอีกด้วย ไม่ต้องไปไกลถึงไร่แล้ว กิจกรรมในแต่ละฤดูก็จะแต่ต่างกันทำให้คนที่เคยมาแล้วก็มาอีกได้ไม่น่าเบื่อแน่นอน ที่สำคัญผมว่าเด็ก ๆ ต้องชอบมากแน่เลย ใครชอบเที่ยวแนวนี้ก็ลองมากันครับ

SANSIRI BACKYARD ตั้งอยู่ที่อ่อนนุช เส้นสุขุมวิท 71 เปิดเวลา 08.00 - 19.00 น. ค่าเข้าชมฟรี มีค่าร่วมกิจกรรมภายใน พิกัดตามแผนที่ Google Maps ติดต่อสอบถามรายละเอียดกิจกรรมแต่ละช่วงเวลาได้ที่เพจ Sansiri Backyard | Facebook แต่ละฤดูก็มีกิจกรรมแตกต่างกันไปครับ

เย็นเย็น บ๊วยสมุนไพร เครื่องดื่มกินเจ หวานน้อยรสกลมกล่อมถูกใจ

 อากาศร้อน ๆ เดินหาเครื่องดื่มเย็นเย็น ดับร้อนในเซเว่นซักหน่อย ไปเจอ เย็นเย็น บ๊วยสมุนไพร ต้องเอามาลองซักหน่อย เห็นมีประทับตรากินเจ ด้วย แปลว่าเตรียมพร้อมเทศกาลกินเจที่ใกล้ถึงนี้ด้วยสินะ ส่วนตัวชอบกินเครื่องดื่มสมุนไพร เย็นเย็น อยู่แล้ว พอมีรสใหม่ออกมาแบบนี้ของลองสักหน่อยว่าจะชื่นใจดับร้อนมากแค่ไหนกัน

เย็นเย็น รสบ๊วย สมุนไพร เครื่องดื่มใหม่ในเซเว่นเย็นเย็น บ๊วยสมุนไพร ใช้ขวดรูปทรงเดิมที่เราคุ้นเคย ใช้โทนสีเนื้อออกทองสื่อถึงน้ำรสบ๊วยที่หลายคนชอบกิน มาพร้อมกับนายแบบชุดจีนโบราณสื่อถึงเครื่องดื่มของจีนกว่าพันปี เอาจริงเราก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าบ๊วยมาจากประเทศจีนนะ เห็นว่านายแบบชื่อ เฮียซี-พฤกษ์ พานิช และนุนิว-ชวรินทร์ เพริศพิริยะวงศ์ จากซีรีส์นิ่งเฮียก็หาว่าซื่อ ซึ่งผมก็ไม่เคยรู้จักหรอกตอนแรกนึกว่าพระเอกหนังจีนที่แท้คนไทยนี่เอง ปกติที่เคยกินน้ำบ๊วยก็เพราะชอบกินบ๊วยแต่กับน้ำบ๊วยที่เคยกินมามันจะข้มเข้นจี๊ดใจเลย ทั้งหวานเปรี๊ยวเค็ม ทั้งที่น้ำก็ดูใส ขอลองหน่อยเถอะว่ารสชาติจะโดนใจแค่ไหน ตอนจับเลี้ยงก็โดนใจมากเลยครั้งนี้คงไม่ผิดหวัง 

เย็นเย็น บ๊วยสมุนไพร เครื่องดื่มสูตรเจ วางขายแล้วจ้ารสชาติ เย็นเย็น บ๊วยสมุนไพร ผมเลือกขวดขนาด 400 มล. ราคา 15 บาท โดยขวดที่ผมหยิบมาดูจากก้นขวดจะเห็นตะกอนจับตัวอยู่นิดหน่อย เขย่าดูก็หายไป ก็เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ซึ่งไม่ได้มีอันตราย และไม่ได้มีผลต่อรสชาติ ลองเอาหลอดจิ้มดูดเลยไม่ต้องรอช้า หยิบมาจากตู้แช่เย็น กินได้ทันที ความรู้สึกแรกที่ได้กิน ยังงงๆอยู่ว่าเป็นรสบ๊วยไหม เพราะมีส่วนผสมของสมุนไพรปนอยู่ด้วย พอดูดกินไปได้ซักพักก็เริ่มได้รสของบ๊วยมากขึ้น เป็นรสบ๊วยอ่อน ๆ แบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน ผิดกับที่เราเคยกินน้ำบ๊วยจะรสเข้มข้นต่างกันเยอะเลย ซึ่งจะบอกว่าผมชอบแบบนี้มากกว่าเป็นรสอ่อน ๆ แต่คนที่ชอบรสเข้มข้นอาจไม่ถูกปากก็ได้ ส่วนรสอื่นที่สัมผัสได้เป็นรสของน้ำกระเจี๊ยบบางๆ ผสมกับเก๊กฮวย และเฟื่อนรสชะเอมอยู่นิดๆ รสหวานน้อยรสกลมกล่อมถูกใจ ยังคิดอยู่ว่าถ้าหวานมากไปเราคงไม่ได้กินอีกแน่ เหมือนตอนจั๊บเลี้ยงที่เลิกกินไปเพราะจะลดน้ำตาลพอมีแบบมินอลมอลมาก็เลยได้กินต่อ

เย็นเย็น บ๊วยสมุนไพร เครื่องดื่มสูตรเจ ส่วนผสมสมุนไพรส่วนประกอบ เย็นเย็น บ๊วยสมุนไพร จากฉลากเราจะเห็นว่ามีน้ำสมุนไพรรวม 8 ชนิด 95.6% โดยมีส่วนผสมดังนี้

เก๊กฮวย   ช่วยดับกระหาย ทำให้สดชื่น

บ๊วย       แก้อ่อนเพลีย ช่วยย่อยอาหาร

กระเจี๊ยบ   ช่วยลดไขมันในเลือด

ชะเอมเทศ  ช่วยย่อยอาหาร แก้เจ็บคอ แก้ไอ

ส้มซ่า   แก้ท้องอืด แก้ไอ

ฮอร์ธอร์น  ช่วยย่อยไขมันในเลือด มีสารต้านอนุมูลอิสระ

ลูกหม่อน  มีสารต้านอนุมูลอิสระ บำรุงระบบไหลเวียนเลือด

เปปเปอร์มินต์ ทำให้สดชื่น ช่วยย่อยอาหาร ทำให้กินกับของเย็นเย็นแล้วสดชื่นมากเลย

นอกจากส่วนผสมของสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่าง ๆ แล้ว ยังใส่น้ำตาลเพียงแค่ 4 % ซึ่งถือว่าน้อยมาก ดีมากเลยจะได้ไม่ต้องคุ้มน้ำตาลมากนัก แถมมีตราสัญลักษณ์อาหารเครื่องดื่มสูตรเจ ด้วยเหมาะกับคนที่ตั้งใจจะกินเจในช่วงวันที่ 25 กันยายน 2565 ถึง 4 ตุลาคม 2565 นี้พอดีเลย สามารถเอาไปกินได้แบบสบายใจเลยนะ

เย็นเย็น บ๊วยสมุนไพร เครื่องดื่มสูตรเจ กินใส่น้ำแข็งตอนแรกตั้งใจจะเอาไปลองต้มกินร้อน ๆ ว่าจะรสชาติเป็นยังไง แต่ลืมไปนี่มัน เย็นเย็น ก็ต้องกินแบบเย็นเย็นสิ ว่าแล้วก็ไปเอาน้ำแข็งมาใส่ ปกติเครื่องดื่มเมื่อใส่น้ำแข็งความเข้มข้นก็จะถูกเจือจางไป เย็นเย็น บ๊วยสมุนไพร นี้พอใส่น้ำแข็งแล้วก็ทำให้รสบ๊วยอ่อนลงไปอีก แต่ก็ยังคงมีกลิ่นบ๊วยและรสติดปลายลิ้นได้อยู่ ซึ่งทำให้รสสมุนไพรบางชนิดชัดขึ้นมาแทน อย่างกระเจี๊ยบ และชะเอม ผมจึงขอแนะนำว่ากินแบบไม่ใส่น้ำแข็งจะรสชาติดีกว่ากำลังลงตัว แต่ถ้าใครชอบแบบจางๆก็เหมาะมากเลย สำหรับการรีวิวครั้งนี้กับ เย็นเย็น บ๊วยสมุนไพร ผมให้ผ่านเข้ามาเป็นหนึ่งในรายชื่อเครื่องดื่มสุดโปรดของผมได้เลย

รีวิว Fate The Winx Saga ซีซั่น 2 จัดเต็ม EP สุดท้าย พลังเวทย์แฟรี่ที่รอคอย

 Fate The Winx Saga ซีซั่น 2 มาแล้ว บอกเลยว่า EP สุดท้ายจัดเต็ม นี่สิพลังเวทย์แห่งแฟรี่ที่รอคอย สายเวทย์อย่างเราที่ติดตามมาจากซีซั่นแรก ก็ได้มีโอกาสดูจนจบสักที มาครั้งนี้พร้อมพากย์ไทย ในซีซั่นนี้มี 7 ตอน ให้มากกว่าซีซั่นก่อนตอนนึง เรื่องราวของแม่มดฝึกหัดในโรงเรียนเวทย์ ที่ต้องต่อสู้กับปีศาจที่หวังเอาพลังจากเหล่าแฟรี่ไปใช้โดยมีต้นฉบับเป็นการ์ตูนเรื่อง Winx Club เห็นว่าดัดแปลงมาอีกทีทำให้แตกต่างกัน ซึ่งผมก็ไม่เคยดูมาก่อน แต่ด้วยความสนุกจากซีซั่นก่อนทำให้ผมตามมาถึงซีซั่นนี้

Fate The Winx Saga ซีซั่น 2 พากย์ไทยFate The Winx Saga ซีซั่น 2 พากย์ไทย ชอบตรงนี้แหละไม่ต้องอ่านซับ แถมทีมพากย์ก็คุณภาพ น้ำเสียงส่งอารมณ์กันได้สุด เพราะซีซั่นนี้หลากหลายอารมณ์มากเลย แต่ละตัวละคร ทั้งความโกรธ สงสัย เสียใจ รัก ทำให้ดูได้อย่างไม่ขัดอารมณ์ของตัวละครที่แสดงออกมาร่วมกัน

Fate The Winx Saga ซีซั่น 2 ตัวละครFate The Winx Saga ซีซั่น 2 ตัวละคร ที่จริงมีเยอะมากแต่เอาตัวหลักก็คงไม่พ้นกลุ่มของ Winx ที่รวมตัวแฟรี่ผู้มีพลังของธาตุที่แตกต่างกัน 

Bloom บลูม เป็น แฟรี่ไฟ พลังไฟของเธอคือเพลิงมังกรที่มีพลังแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก เป็นที่ต้องการของใครหลายคน รวมทั้งปีศาจด้วย แถมตัวเธอยังอยากค้นหาอดีตของตัวเองที่ได้รับพลังนี้มา

Musa มุสะ เป็น แฟรี่พลังจิต เธอสามารถอ่านและรับรู้จิตใจของคนที่อยู่รอบข้างได้ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ความรู้สึกนึกคิด ทำให้เธอชอบใส่หูฟังเพื่อปิดกั้นพลังของเธอเอง ดูเหมือนเธอจะไม่ค่อยชอบพลังของเธอมากนัก

Stella สเตลลา เป็น แฟรี่แสง เธอสามารถหายตัวได้ด้วยการทำให้โปร่งแสง เหมือนจะเป็นตัวร้ายในซีซั่นแรกแต่ก็กลายเป็นแก๊งเพื่อนรักของกลุ่มไปเรียบร้อยแล้ว ด้วยความที่เธอเป็นถึงลูกของราชินีผู้มีอำนาจสูงสุดจึงต้องวางตัวแตกต่างจากเพื่อน 

Terra เทอร์รา เป็น แฟรี่ดิน สาวอารมณ์ดีเชี่ยวชาญด้านพืชศาสตร์ สามารถควบคุมต้นไม้ได้ การทำยารักษาเป็นหน้าที่ของเธอเลย

Aisha ไอช่า เป็น แฟรี่น้ำ นักกีฬาสาวมีความรู้รอบด้าน และมีการคิดวิเคราะห์ที่เฉียบมาก เป็นที่เชื่อใจของเพื่อนๆ แผนที่เธอเลือกมักเป็นทางที่ดีที่สุดเสมอ จนบางครั้งเธอก็กดดันเหมือนกัน

Fate The Winx Saga ซีซั่น 2 แก๊งใหม่รีวิว Fate The Winx Saga ซีซั่น 2 ในซีซั่นนี้มีตัวละครใหม่เข้าร่วมแก๊งอย่าง ฟลอร่า ลูกพี่ลูกน้องของ เทอร์รา ที่มาเพิ่มความสนุก ดราม่า ของกลุ่มเพื่อนแก๊งนี้ เปิดเรื่องด้วยการฝึกวิชาของบลูมซึ่งยังทำได้ไม่ดีนัก การจากไปของอาจารย์ใหญ่คนก่อนยังคงไม่ได้รับการคลี่คลาย ทำให้กลุ่มสาวคราวนี้สืบหาความจริงจนไปเจอเรื่องราวเกี่ยวพันกับแม่มดเลือด ตัวร้ายกลุ่มใหม่ที่คิดจะดึงเอาพลังของแฟรี่ทุกคน รวมทั้งพลังของบลูมไปใช้ประโยชน์เพื่อแก้ไขอดีตที่ผิดผลาด นอกจากเมนหลักของเรื่องแล้วยังสอดแทรกไปด้วยเนื้อหาความสัมพันธ์ของเหล่าตัวละคร ด้านความรัก ที่ดูวุ่นวาย สับเปลี่ยนไปมาก จนยุ่งเหยิง เรียกว่าจะได้เห็นครบแบบทุกเพศ ทุกรูปแบบความสัมพันธ์ ซึ่งก็ดูกลมกลืมไม่ได้ติดขันอะไร เพียงแต่ก็คิดว่ามันมากเกินไปรึป่าว เพราะเหมือนเมนหลักของเรื่องออกมาเพียงนิดเดียวเอง 

Fate The Winx Saga ซีซั่น 2 ความรู้สึกหลังดูจบ จะบอกว่าผิดหวังนิดหน่อยที่ฉากต่อสู้น้อยมาก โชว์การใช้พลังน้อยมาก เหมือนไปเน้นที่เรื่องราวความสัมพันธ์ของแต่ละตัวครเป็นหลัก ซึ่งด้วยความที่ตัวละครเยอะหลายคน แถมยังมีความสัมพันธ์ที่ลึกลับซับซ้อน และบางอันก็ไม่เข้าใจเลยว่าแบบนี้ก็ได้หรอ? อย่างว่าเป็นเรื่องราวในหนังเขาอาจจะไม่ถือสาเรื่องอะไรพวกนี้ แหมถ้าเป็นละครไทยนี่มีจิกกัดกันนั่วแน่เลย ส่วนสิ่งที่คาดหวังว่าจะได้เจออย่างฉากแสดงพลังอันอลังการมาจัดเต็มอยู่ใน EP สุดท้าย โชว์พลังเวทย์แฟรี่ของทุกคน นึกว่าจะจบไปแบบไม่มีอะไรเลยซะแล้ว ยังคิดอยู่ว่าจะตามต่อดีไหม? แต่ปิดท้ายเรื่องให้ค้างคาอีกแล้ว ทำให้ต้องตามต่อแน่นอน และก็คาดหวังไว้อีกว่าจะมีฉากเวทย์สวย ๆ มากกว่าซีซั่นนี้นะ 

สรุป Fate The Winx Saga ซีซั่น 2 เป็นอีกซีซั่นที่งานภาพสีสันสดสวย CG ดีงาม เพียงแต่มาน้อยไปนิด เน้นไปที่ความสัมพันธ์ของเหล่าตัวละครที่มีเยอะซับซ้อนดูวุ่นวาย แต่ก็ชวนให้น่าติดตาม และเดาทางได้ยากอยู่ว่าแต่ละตัวละครที่ดูลึกลับจะตัดสินใจเลือกทางไหน ช่วยเหลือ หรือ หักหลัง เปลี่ยนไปมาตลอด เรียกว่า หักมุมแล้วหักมุมอีก สรุปแล้วใครที่ชอบเรื่องราวแนวแฟนตาซี รักวัยรุ่นวุ่ยวาย ก็น่าจะเหมาะกับการตามดูซีรีย์เรื่องนี้ อ้อแล้วก็ดูเหมือนหนุ่ม ๆ เรื่องนี้ก็ขยันโชว์ของกันอยู่นะสาว ๆ น่าจะชอบ ลองไปตามดูกันครับ

E-book Doraemon The Movie ภาพยนตร์โดราเอมอน สะสมกันได้ครับ

มีแบบ 4 สี สวยงาม เป็นแนวแคปรูปจากในมูฟวี่มาทำเป็นให้อ่านแทนครับ

 โดราเอมอน The Animation (4สี)

1. ภาพยนตร์อนิเมชั่นโดราเอมอน ตอน "ไดโนเสาร์ของโนบิตะ" 
2. ภาพยนตร์อนิเมชั่นโดราเอมอน ตอน "โนบิตะนักบุกเบิกอวกาศ" 
3. ภาพยนตร์อนิเมชั่นโดราเอมอน ตอน "ผจญภัยไซอิ๋ว" 
4. ภาพยนตร์อนิเมชั่นโดราเอมอน ตอน "บุกดินแดนมหัศจรรย์" 
5. ภาพยนตร์อนิเมชั่นโดราเอมอน ตอน "ตะลุยปราสาทใต้สมุทร" 
6. ภาพยนตร์อนิเมชั่นโดราเอมอน ตอน "ตะลุยแดนปิศาจ" 
7. ภาพยนตร์อนิเมชั่นโดราเอมอน ตอน "สงครามอวกาศ" 
8. ภาพยนตร์อนิเมชั่นโดราเอมอน ตอน "ผจญกองทัพมนุษย์เหล็ก" 
9. ภาพยนตร์อนิเมชั่นโดราเอมอน ตอน "เผชิญอัศวินไดโนเสาร์" 
10. ภาพยนตร์อนิเมชั่นโดราเอมอน ตอน "กำเนิดประเทศญี่ปุ่น"

SET ภาพยนตร์อนิเมชั่นโดราเอมอน เล่ม 1-10 (4สี) FUJIKO F FUJIO www.mebmarket.com ภาพยนตร์อนิเมชั่นโดราเอมอน ตอน "ไดโนเสาร์ของโนบิตะ" ภาพยนตร์อนิเมชั่นโดราเอมอน ตอน "โนบิตะนักบุกเบิกอวกาศ" ภาพยนตร์อนิเมชั่นโดรา... Get it now

มีตอนที่ไม่มีในเซ็ตของฉบับการ์ตูนอย่าง ผจญภัยไซอิ๋ว ส่วนตอนอื่นแบบสีจะมีหรือป่าวอันนี้ยังไม่แน่ใจไว้ถ้ามีออกมาจะมาเพิ่มให้ครับ

ภาพยนตร์อนิเมชั่นโดราเอมอน ตอน "ผจญภัยไซอิ๋ว" FUJIKO F FUJIO www.mebmarket.com สำหรับภาพยนตร์อนิเมชั่นโดราเอมอน ตอน "ผจญภัยไซอิ๋ว" ผลงานการรังสรรค์ของอาจารย์ฟูจิโกะ F ฟูจิโอะ เรื่องนี้ถือเป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องที่ ... Get it now

เซ็ตแบบฉบับการ์ตูนเขียน ลายเส้นของอาจารย์ที่คุ้นเคย จะไม่มีตอน ผจญภัยไซอิ๋ว 

โดราเอมอนเรื่องยาวพิเศษ

1. โดราเอมอนเรื่องยาวพิเศษ เล่ม 1 ตอน ไดโนเสาร์ของโนบิตะ
2. โดราเอมอนเรื่องยาวพิเศษ เล่ม 2 ตอน โนบิตะ นักบุกเบิกอวกาศ
3. โดราเอมอนเรื่องยาวพิเศษ เล่ม 3 ตอน บุกดินแดนมหัศจรรย์
4. โดราเอมอนเรื่องยาวพิเศษ เล่ม 4 ตอน ตะลุยปราสาทใต้สมุทร
5. โดราเอมอนเรื่องยาวพิเศษ เล่ม 5 ตอน ตะลุยแดนปิศาจ
6. โดราเอมอนเรื่องยาวพิเศษ เล่ม 6 ตอน สงครามอวกาศ
7. โดราเอมอนเรื่องยาวพิเศษ เล่ม 7 ตอน ผจญกองทัพมนุษย์เหล็ก
8. โดราเอมอนเรื่องยาวพิเศษ เล่ม 8 ตอน เผชิญอัศวินไดโนเสาร์
9. โดราเอมอนเรื่องยาวพิเศษ เล่ม 9 ตอน กำเนิดประเทศญี่ปุ่น
10. โดราเอมอนเรื่องยาวพิเศษ เล่ม 10 ตอน ตะลุยดาวต่างมิติ
11. โดราเอมอนเรื่องยาวพิเศษ เล่ม 11 ตอน แดนอาหรับราตรี
12. โดราเอมอนเรื่องยาวพิเศษ เล่ม 12 ตอน บุกอาณาจักรเมฆ
13. โดราเอมอนเรื่องยาวพิเศษ เล่ม 13 ตอน ฝ่าแดนเขาวงกต
14. โดราเอมอนเรื่องยาวพิเศษ เล่ม 14 ตอน สามอัศวินในจินตนาการ
15. โดราเอมอนเรื่องยาวพิเศษ เล่ม 15 ตอน บันทึกการสร้างโลก
16. โดราเอมอนเรื่องยาวพิเศษ เล่ม 16 ตอน ผจญภัยสายกาแล็กซี่
17. โดราเอมอนเรื่องยาวพิเศษ เล่ม 17 ตอน ตะลุยเมืองตุ๊กตาไขลาน
18. โดราเอมอนเรื่องยาวพิเศษ เล่ม 18 ตอน ผจญภัยเกาะมหาสมบัติ
19. โดราเอมอนเรื่องยาวพิเศษ เล่ม 19 ตอน บันทึกท่องอวกาศ
20. โดราเอมอนเรื่องยาวพิเศษ เล่ม 20 ตอน ตำนานสุริยกษัตริย์
21. โดราเอมอนเรื่องยาวพิเศษ เล่ม 21 ตอน อัศวินแดนวิหค
22. โดราเอมอนเรื่องยาวพิเศษ เล่ม 22 ตอน ตะลุยอาณาจักรหุ่นยนต์
23. โดราเอมอนเรื่องยาวพิเศษ เล่ม 23 ตอน มหัศจรรย์ลูกพระพาย
24. โดราเอมอนเรื่องยาวพิเศษ เล่ม 24 ตอน ผจญภัยสู่อาณาจักรโฮ่งเมี้ยว

SET โดราเอมอนเรื่องยาวพิเศษ เล่ม 1 - 24 FUJIKO F FUJIO www.mebmarket.com ชุดรวมโดราเอมอนเรื่องยาวพิเศษ เล่ม 1-24 โดราเอมอนเรื่องยาวพิเศษ เล่ม 1 ตอน ไดโนเสาร์ของโนบิตะ โดราเอมอนเรื่องยาวพิเศษ เล่ม 2 ตอน โนบิตะ นักบุกเบิก... Get it now

ใครที่ชอบโดราเมมอน ก็ซื้อเก็บไว้กันครับ หยิบมาอ่านเมื่อไรก็ได้แสนสะดวก แบบลายเส้น อาจารย์ ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ ก็จะเป็นเรื่องราวต้นฉบับ อ่านสนุก บางเล่มมีตอนแถมด้วยนะ ส่วนแบบฉบับแคปจากอนิเมะมูฟวี่ ก็สนุกไม่แพ้กันที่สำคัญ 4 สี สวยงาม เนื้อเรื่องตามมูฟวี่ที่ออกฉายครั้งแรกเลยครับ ชวนคิดถึงเหมือนกัน ไปครับซื้อเก็บกัน ควรค่าอย่างยิ่งเก็บไว้ให้ลูกอ่านได้ 555+

รายได้นายอบจาก trueid creators สัปดาห์ที่ 28 กันยายน 2565

  มาต่อกันที่สัปดาห์นี้ รายได้จาก TrueID Creators  อยู่ในระดับที่ยอมรับได้เท่ากับอาทิตย์ก่อน

นายอบ รอบนี้มีบทความเพิ่มใหม่ 3 บทความ

• จ่ายค่าน้ำเกินกำหนดผ่านออนไลน์ได้แล้ว ไม่ต้องไปที่สาขาอีกต่อไป น่าจะมีมาตั้งนานละ
• รีวิว 6 อาหารเจในเซเว่น ปี 2565 จะได้กี่วัน เจแตกไหม ตลอดเทศกาลกินเจ
• ITEM ไม่ลับสติ๊กเกอร์หัวหอม ตัวช่วยลูกน้อย ไม่หายใจครืดคราด
  
  

รายได้รอบนี้ 208.66

nineob รอบนี้มีบทความเพิ่มใหม่ 2 บทความ

• รีวิว Fate The Winx Saga ซีซั่น 2 จัดเต็ม EP สุดท้าย พลังเวทย์แฟรี่ที่รอคอย
• เย็นเย็น บ๊วยสมุนไพร เครื่องดื่มกินเจ หวานน้อยรสกลมกล่อมถูกใจ

รายได้รอบนี้ 329.78

รอบนี้มีจ๊อบ 1 บทความ เขียนเอง 4 บทความ รวม 5 บทความ เริ่มเขียนน้อยลงไปทุกที

สรุปรายได้รอบสัปดาห์นี้ได้ไปรวมทั้งหมด 538.44 บาท ยังครึ่งทางของเป้าหมายอยู่ 

รอบนี้ได้มาเหมือนไม่คุ้มเลยเพราะเงินเด้งเข้าปุ๊บซื้ออาหารเจเซเว่นทานปั๊บหืม!? เกือบหมดเลย ฮ่า อาหารเจก็หนักอยู่นะนี่ อาจเป็นเพราะเน้นซื้อตุนด้วยแหละกลัวหมด อาทิตย์แห่งการกินเจเลยจัดไปหนึ่งบทความจริง ๆ ก็อยากเขียนเยอะกว่านี้แหละ แต่มันตือๆตันๆบอกไม่ถูกรู้สึกพลังงานน้อย

ส่วนหนังได้ดูไปไม่กี่เรื่องและรีวิวไปเรื่องเดียวเอง รู้สึกเหนื่อยหาภาพปลากรอบ เลยไม่ค่อยได้ทำ ละก็ยังไม่เจอแนวที่ใช่ด้วยแหละ ช่วงนี้เริ่มเขียนไปทางแนวบ่นไปเรื่องดูแล้วจะไม่ค่อยมีสารประโยชน์กับคนอ่านเลย แต่คิดมากไปก็เท่านั้น ดีที่สุดคงไม่มี ถ้าเรายังไม่ได้ลงมือทำ เชื่อว่ามันจะพัฒนาจนติดเป็นนิสัย และเอกลักษณ์ของเราไปเอง

เรื่องราวจากเหตุการณ์ในชีวิต เจอบิลค่าน้ำเกินกำหนดไหน ๆ ก็แล้วเลยรีวิวไปด้วยในตัว อีกอันเป็นน้ำบ๊วยเย็นเย็น เห็นมาใหม่เลยจัดไปอีกหนึ่งรีวิว ส่วนตัวก็ชอบกินยี่ห้อนี้ด้วยอยู่แล้ว และก็ได้สติ๊กเกอร์หัวหอมมาฟรีละ ละลูกป่วยพอดีได้ใช้งาน แต่ปกติก็จะซื้อยี่ห้อนี้ใช้อยุ่แล้วเวลาเด็กๆเป็นหวัด ก็เลยจัดไปอีกรีวิว

แผนงานรีวิวถัดไปจริง ๆ ลิสรายชื่อบทความไว้แล้ว เน้นไปทางการ์ตูนที่ชอบอ่าน แต่พอเริ่มจะเขียนจริงมันเป๋ ๆ อยู่ว่าจะเน้นไปทางรีวิวมังงะ หรือจะรีวิวอนิเมะ แยกเป็นรายซีซั่นดี หรือจะรวม ๆ เลย เพราะแยกภาคมันเหมาะทำกับปัจจุบัน อันไหนมันหลายภาคไปแล้วคนคงไม่สนใจอ่านหรอกมั่ง แต่ถ้าแยกรายซีซั่นมันก็ได้หลายบทความดี แต่ที่ยากคือรีวิวยังไงให้น่าติดตามแต่ไม่สปอยนี่แหละที่ยากจัง 

เอาเป็นว่าจะพยายามทำให้ได้ตามเป้าละ อาจไม่ต้องเขียนทุกวัน แต่ต้องมีบทความเฉลี่ยรายวันให้ได้วันละบทความ อาทิตย์ละ 7 เรื่อง นี่ก็ต่ำกว่าเป้ามาหลายครั้งละ ส่วนเป้าใหญ่ปีนี้คือครบ 100 บทความก่อนสิ้นปี น่าจะถึงแหละ ส่วนเป้าเรื่องยอดวิวไม่ยากคาดหวังมันเหมือนขึ้นอยู่กับชื่อเรื่องบทความกับกระแสว่าจะพาไปได้แค่ไหน ตั้งไว้สัก 1 แสนวิว ก่อน จริงๆก็ตั้งไว้ 1 ล้านนะ แต่ดูสถิติแล้วเรียกว่าหมดหวัง รอดูปีหน้าว่าจะพอไหวไหม เดี๋ยวรอทำครบปีแล้วทำบทความแนวสรุปสถิติสักหนึ่ง

เรียนรู้เรื่องเขียนบทความ

 เขาก็มีแนวทางการทดลองมาก่อนหน้านี้แล้ว ว่าที่ได้ผลดีที่สุดคือการเขียนจากประสบการณ์จริง แต่การเขียนนั้นก็ต้องได้อะไร หมายถึงคนที่อ่านจะได้อะไร เพราะงั้นคนเขียนนอกจากจะเล่นเรื่องราวได้เก่งน่าสนใจแล้วยังต้องมีการสรุปสาระประโยชน์ให้กับคนอ่านด้วย ไม่ใช่บ่นไปเรื่อย ถ้าเกิดว่าเราเป็นซุปตาร์ที่ผู้คนพุ่งความสนใจมันก็คงได้อยู่หรอก เพราะไม่ว่าจะโพสต์จะเขียนอะไรก็มีคนให้ความสนใจอยู่แล้ว แม้จะเพียงแค่แคปชั่นสั้น ๆ ก็เพียงพอแล้ว 

ต่างกันโนบอดี้อย่างเรา ที่ต้องสร้างตัวตน สร้างเอกลักษณ์ ภาพจำ สไตล์ของตัวเอง คนที่เขียนแนวบ่นแต่ได้ประโยชน์ก็อย่างเพจ จ่าพิชิต อีเจี๊ยบ ไรนี่มีเอกลักษณ์น่าติดตาม น่าถกประเด็นด้วย แต่ไม่น่าไหวเราไม่ได้อยากรับมือคนเยอะขนาดนั้น เอาแค่ที่คน ๆ หนึ่งจะรับมือไหว มันควรจะเท่าไร ที่จริงก็ตั้งเป้าไว้แค่ขั้นต่ำ เช่น คนตามพันคน ก็น่าจะเพียงพอต่อการสร้างรายได้กับกลุ่มคนที่จะสนใจอ่านบทความเรา

เพราะงั้นก็เลยคิดว่าหรือจะเปิดเป็นเพจเฉพาะด้าน เช่น ด้านการ์ตูน เกมส์ หนัง เพลง ไรงี้ก็คู่แข่งเยอะไปหมด แถมคงไม่สามารถคิดคอนเทนต์ได้ทุกวัน ก็ต้องเป็นเพจชื่อตัวเรานี่แหละ ค่อยหาจุดขายตัวเองต่อไป ว่าจะแนวไหน ก็พยายามจัดหมวดหมู่แยกไว้ เพราะคนเราก็สนใจหลากหลายด้านซึ่งบางคนก็อาจอยากตามแต่บางเรื่องไม่ใช่ทุกเรื่องที่เราสนใจ

แต่ก็มีแค่ลงมือทำแล้วปรับปรุงกันต่อไป ยิ่งมีคนตามแล้วยิ่งโฟกัดได้ถูกจุด หนึ่งเป้าของเราเอง สองเป้าของคนติดตาม ให้สอดคล้องกัน ก็จะได้ไปด้วยกันได้ กลุ่มเล็ก ๆ ก็เพียงพอแล้ว เพราะถ้าเยอะเกินดูแลไม่ไหว รู้สึกเกรงใจเหมือนเราเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว ถึงว่าต้องมีจัดตอบแทนคนดู หวังว่าเราคงมีวันนั้น

ตอนนี้พยายามเน้นไปทางการหารายได้เสริมจากการเขียนบทความจากเวลาว่างงาน หลังเลิกงาน วันหยุด โดยทำได้โดยไม่ต้องคิดเยอะ คิดแค่ง่าย ๆ สั้น ๆ ไม่ต้องบ่นเยอะเน้นตรงประเด็น จะว่าไปนี่ก็บ่นเยอะแล้วยังจับสาระไม่ได้เลย ฮ่า เอาเป็นว่าจะค่อยปรับไปแล้วกัน จะได้เป็นธรรมชาติมากที่สุด 

เหมือนจุดประสงค์แฝงในหัวคือ เอาเรื่องราวระบายออกมาบ้างทางตัวหนังสือบทความนี่แหละ ก็เพื่อได้ประโยชน์บ้างไม่ได้บ้างก็จะพยายามไปโยงประโยชน์ให้ได้มากสุดแล้วกัน 

ใครมีคำแนะนำเม้นไว้ได้ครับ ผมก็อยู่ในช่วงทดลองเหมือนกัน ไม่กล้ารับงานใหญ่กลัวทำเขาเสียเรื่อง เอาแบบเล็ก ๆ จุกจิ๊ก กินขนมไปก่อน ค่อยว่ากันเรื่องกอบโกย ที่จริงก็สนใจจะลงทุนทำโฮส wordpress อยู่ แต่ก็คิดว่าแค่ของฟรีอย่าง blogger ยังทำไม่ได้แบบมีวินัยเลย ไปลงทุนเสียตังก็คงล้มไม่ต่างจากเดิม 

ผมเคยลงทุนกับเว็บไปหลายรอบละ สุดท้ายไม่มีเวลาอัพเดทมีแต่คอนเซ็บ ไม่มีคอนเทนต์ ก็เลยเสียตังฟรีไป มันยากจริง ถ้าใช้เงินก็ต้องลงด้วยเงินต่อไปจ้างเขียนบทความ ทำ SEO ทำ Ads ปั่นกระแส ปั่นวิว แล้วก็ไม่รู้รายได้จากโฆษณาได้คุ้มไหมกับที่ลงทุนไป แต่มันก็น่าจะได้แหละ แค่ว่าทำเยอะได้เยอะทำน้อยได้น้อย เพราะบางเว็บไม่ต้องมีคนดูแลคุยกับลูกเพจ แค่ปล่อยคอนเทนต์ให้คนใช้งานก็ได้รายได้แล้ว

การลงทุนคือความเสี่ยง การลงแรงก็เสี่ยงเหมือนกันแต่ขาดทุนน้อยกว่า เพราะงั้นเอาไปทีละสะเต็ป จะเน้นเขียนบทความหรือจะเน้นปั่นเพจ ปั่นเว็บ ก็วิธีบริหารจัดการแตกต่างกัน เลือกเอาว่าจะหยิบเม็ดเงินจากช่องทางได้ หรือจะเหมารวบยอด บางทีก็ต้องระงั้บความโลภไว้ก่อน ค่อยๆเดินไปทีละก้าว ได้น้อยแต่ได้นะ 

ส่วนพวก Affiliates นี่ทำแล้วไม่ค่อยได้กำไรเลย สงสัยเราทำไม่เป็น หรือไม่เราก็ไม่ดังมากพอที่คนจะกดซื้อของจากลิงค์ของเรา เงิน ทองจะมาพร้อมความน่าเชื่อถือ เพราะงั้นตอนนี้ก็ต้องทำฐานรองรับไว้ก่อน พอถึงเวลาสักบทความที่เป็นกระแส มันก็จะไหลเข้ามาเอง เย้ ออกทะเลมาเยอะเลยเรื่องเขียนบทความบ่นไป 99% ขออภัยด้วยครับถ้าใครอ่านจนจบแล้วยังไม่ได้อะไร

ของรางวัลจากการเขียนบทความ

ได้มาอีกตัวแล้ว ถ้ายังมีมาอีกก็ว่าจะชิงไปเรื่อย ๆ รู้สึกเหมือนไม่มีคนแข่งด้วย ก็ดีนะได้แบบไม่ต้องลุ้นเลย 

บางทีก็แค่อยากเขียนไปเรื่อยแบบไม่ต้องมีหลักมีการอะไร แต่ก็ไม่ได้ต้องฝึกเอาไว้รูปแบบการเขียนรีวิว กลิ่นอายของตัวตนของเรา ต้องมีใส่ไว้เป็นภาพจำ นี่ก็ได้แต่คิดเอาเข้าจริงสุดท้ายแค่ทำอะไรตามใจนี่แหละ

จริงๆไม่ชอบเขียนอะไรเยอะแยะมากมายเพราะคิดว่าคงไม่มีใครอ่านอยู่แล้วเขียนเยอะไปก็เท่านั้น อีกอย่างถ้าเขียนแนวบ่น หรือบันทึกประจำวันคงไม่มีผลอะไรกับการทำ SEO หรอกมั่ง

เราชอบใจร้อน และขี้เบื่อ วางแผนไว้ก็ทำได้ไม่เคยเกินจุดเริ่มเลย ไฟนี่มันทำให้หมดพลังจริงๆ ตอนมีไฟนี่จะเขียนอะไรก็ได้หมดไม่สนอะไร แต่พอหมดไฟนี่เขียนอะไรไปมันก็เซ็งก็ท้อ ก็ไม่สนุก อันนี้แย่สุด อย่างน้อยขอให้สนุกกับการเขียนหน่อยเถอะ พอได้ผลตอบแทนไม่เข้าเป้าก็ท้อแหละ ไฟดับง่ายจัด กว่าจะจุดติดนี่อยากมากเลย

เวลาเขียนอะไรแนวนี้ก็ต้องเน้นว่าบันทึกเก็บไว้ให้ลูกหลานก็แล้วกัน แต่ว่าบางทีเราก็มาลบทีหลัง มีหลายบทความที่เขียนไปแล้ว พอเห็นว่ามันเก่าไม่มีประโยชน์กับปัจจุบันละก็ลบทิ้ง ที่จริงมันก็เก็บไว้เป็นประวัติศาสตร์ไปน่าจะได้อยู่นะ 

ช่วงนี้ก็ยังพอจะสนุกอยู่บ้างกับการได้เงินอันน้อยนิด รู้สึกยังไม่คุ้มค่าเหนื่อยเลย พอหาตังเพิ่มได้มาสักนิดนึงรายจ่ายก็พุ่งไปสองเท่าสามเท่า นี่แหละที่ทำให้ยิ่งท้อ ชีวิตสู้ดิ้นรนทำสิ่งที่ถนัดให้กลายเป็นเงินเป็นทองกันต่อไป บางอย่างถ้ามั่วคิดเยอะแล้วไม่ลงมือทำก็ควรเลิกคิดแล้วทำๆไปซะไม่ต้องคิดไรแค่ว่าทำตามเป้าที่กำหนดไว้ก็พอ 

ช่วงนี้ก็เน้นวางแผนเป็นแค่รายสัปดาห์พอ เพราะดูแล้วถ้าวางไว้ไกลว่านี้ล้มโละตลอด ใจเรานี่มันโครตโลเลเลย ก็เซ็งตัวเองเหมือนกัน ยิ่งพอมีของที่อยากได้ลอยเข้ามายิ่งแล้วใหญ่ ต้องอดใจแค่ไหนกันนะเห้อ พยายามล้างหนี้ให้หมดก่อนเถอะเรื่องอื่นค่อยว่ากัน

 

รีวิว Drifting Home บ้านล่องลอย ชวนให้คิดถึงบ้านหลังเก่าทำซึ้งใจ

 

Drifting Home บ้านล่องลอย ภาพยนตร์อนิเมะ โดยสตูดิโอโคโลริโด ฉายทางเน็ตฟลิกซ์เมื่อวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2565 ทำเอาใครหลายคนคิดถึงบ้านหลังเก่าทำซึ้งใจ เนื้อเรื่องแนวแฟนตาซีลึกลับเกี่ยวกับเรื่องราวของบ้าน ในที่นี้เป็นแฟลต หรืออาคาร ห้องชุด ซึ่งถึงคราวต้องทุบทิ้ง โยงเข้ากับเรื่องราวในอดีตฝั่งใจของเด็กสองคนที่เติบโตมาด้วยกันในบ้านแห่งนั้น

เรื่องย่อ Drifting Home บ้านล่องลอย

โคสุเกะ กับ นัตสึเมะ เพื่อนต่างเพศสุดซี้กันตั้งแต่เด็กเพราะเติบโตมาด้วยกันในบ้านมาด้วยกันแต่วัยเด็ก จนทั้งคู่ขึ้นชั้นประถม ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะมีเรื่องที่ทำให้ผิดใจกันจนความสัมพันธ์ไม่เป็นเหมือนเดิม กลุ่มเพื่อนของเขาได้เข้าไปยังตึกที่เป็นบ้านเก่าของพวกเขาและเกิดเรื่องสุดแฟนตาซีที่ทำให้พวกเขาต้องหาทางเอาชีวิตรอดไปจากเหตุการณ์นี้ ที่อยู่ดี ๆ หลังจากฝนตกเพียงวูบเดียวก็กลายเป็นบ้านล่องลอยอยู่ใจกลางทะเล ทำให้พวกเขาค่อย ๆ พบเจอความทรงจำวัยเด็กของทั้งคู่ พวกเขาจะเลิกทะเลาะกันได้หรือไม่ และจะกลับไปสู่โลกเดิมได้อย่างไร จึงเป็นเรื่องราวของหนังครั้งนี้

Drifting Home บ้านล่องลอยรีวิว Drifting Home บ้านล่องลอย

งานภาพนั้นสวยมากเรียกว่าตามมาตรฐานที่ญี่ปุ่นทำภาพยนตร์อนิเมะ แถมเป็นพากย์ไทย ทำให้ไม่ต้องคอยอ่านซับดีมากจริงๆ ตัวละครทั้งหมดเน้นไปที่เด็กประถม ด้านฉากประกอบส่วนตัวดูผ่านๆ แต่คิดว่าฉากเก่าย้อนอดีตเหล่านี้ถ้าใครเคยอาศัยในญี่ปุ่นสมัยก่อนน่าจะรู้สึกอินกับภาพย้อนพวกนี้ที่ค่อยฉายให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของความเจริญ ซึ่งก็พอจะทับซ้อนกับบางพื้นที่ในไทยได้อยู่บ้าง ด้านเนื้อเรื่องและการเล่าช่วงต้นรู้สึกว่าปูเรื่องนานไปนิดทั้งที่ประเด็นก็ไม่ได้เดายากนัก แต่ก็ยังดูได้เพลินไม่ถึงขั้นเบื่อไปเสียก่อน อาจเป็นเพราะเวลาที่มีมากถึง 2 ชั่วโมง สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้น่าสนใจคือความผูกพันในอดีตของตัวเอก กับเรื่องราวของครอบครัวของทั้งสอง ที่ทำให้ทำน้ำตาซึมออกได้อยู่เหมือนกัน โดยรวมคิดว่าจะโดนใจกับคนที่เคยมีบ้านเก่าที่ชวนคิดถึง และยิ่งมีคนที่เราผูกพันอยู่ในบ้านหลังนั้นด้วยแล้วน่าจะทำให้ยิ่งอินกับเรื่องราวทำซึ้งใจได้ยิ่งขึ้น

Drifting Home บ้านล่องลอย นักแสดงนำ

อีกประเด็นที่ตัวหนังนำเสนอคือความรักกันของกลุ่มเพื่อนแม้จะมีทะเลาะกันอยู่บ้างแต่ต่างก็คอยช่วยเหลือกัน และยังมีการแทรกความรู้เอาตัวรอดในทะเลอีกด้วย เช่น วิธีการหาน้ำจืดดื่ม หรือเก็บผักหญ้ามากินแทนอาหาร ก็ดูสมจริงดี แต่ก็มีประเด็นที่ไม่ควรทำตามอยู่อย่างการแอบเข้าไปในสถานที่หวงห้าม หรือการกระโดดห้อยโหนในที่สูง คิดว่าถ้าเป็นเรื่องจริงคงบาดเจ็บหนักถึงตายได้เลย 

Drifting Home บ้านล่องลอย แนวแฟนตาซีลี้ลับส่วนด้านเรื่องลี้ลับและความแฟนซีก็ประหลาดใจเล็กน้อยว่าแบบนี้เลยรึ แม้จะพอเดาได้รางๆแต่ก็ไม่ตรงเสียทีเดียว แต่พอมามองย้อนไปแล้วก็เห็นว่าไม่ได้แตกต่างจากเรื่องราวผีสางในบ้านเราเท่าไหร่นัก มีความคล้ายที่แปลเปลี่ยนไปอีกรูปแบบนึงที่ไม่ได้บอกว่านี่คือผีแบบที่เราคุ้นเคย ถึงจะมีการพูดบอกว่ามีผีแต่บอกเลยว่าไม่มีฉากไหนน่ากลัวสยองขวัญเลยซักนิด มีแต่ความอบอุ่นหัวใจ กับความสัมพันธ์ของกลุ่มเพื่อน และความผูกพันในสถานที่ในความทรงจำของคนเราเท่านั้นเอง

เนื้อหาด้านความรักก็มีการนำเสนอแบบวัยเด็กน่ารักดี แต่จะมองในมุมของเพื่อนรักเพื่อนก็ว่าได้ไม่ได้สื่อถึงความรักแบบหนุ่มสาว มีความแอบชอบ ปากไม่ตรงกับใจ ซึนเดเระ แต่สำหรับผมจะเน้นไปทางเพื่อนกันมากกว่าส่วนความสัมพันธ์จะพัฒนาต่อไปไหมก็ปลายเปิดให้เราจินตนาการต่อได้

โดยสรุปภาพรวม Drifting Home บ้านล่องลอย เป็นหนังที่เหมาะกับคนที่มีความหลังชวนคิดถึงในวัยเด็กกับสถานที่ได้เติบโตมาจะทำให้คุณดูหนังเรื่องนี้ได้สนุกกว่าแน่นอน ขอมอบคะแนนให้ที 8/10 ชวนดูกันกับครอบครัวคุณพร้อมกันจะได้มีคนช่วยส่งกระดาษให้เพื่อมีน้ำตาไหลด้วยความซึ้งใจ

แจกสูตร น้ำผึ้งมะนาวโซดา ผสมน้ำแดง เปรี้ยวหวานหอมชดชื่น เพื่อสุขภาพ

 

แจกสูตร น้ำผึ้งมะนาวโซดา ผสมน้ำแดง ชงกินเองง่าย ๆ ที่บ้าน รสชาติเปรี้ยวหวานหอมชดชื่น เพื่อสุขภาพจากที่ได้จากมะนาว และโซดา แถมยังเป็นเครื่องดื่มดับร้อนได้อีกด้วย หรือจะกินช่วงหน้าฝนอากาศเย็นก็ดื่มได้ชุ่มชื่นใจเช่นกัน พอดีไปซื้อเขากินแล้วอร่อยติดใจเลยเอามาลองทำเองดูบ้าง รสชาติจะเป็นไงไปลองทำกันเลย

วัสดุสำหรับทำ น้ำผึ้งมะนาวโซดา ผสมน้ำแดงส่วนผสมและอุปกรณ์ น้ำผึ้งมะนาวโซดา ผสมน้ำแดง

น้ำผึ้งแท้ 100%

โซดา

มะนาว 1 ลูก

น้ำหวานกลิ่นสละ สีแดง

เกลือ

น้ำแข็ง

อุปกรณ์ มีด ที่บีบมะนาว แก้วแบ่ง แก้วชง ช้อนชา

ส่วนผสมและอุปกรณ์หาเอาง่าย ๆ จากแถวบ้านนี่แหละ เชื่อว่าเป็นของที่มีทุกบ้าน หาได้ไม่อยากขาดเหลืออะไรก็สั่งเอาจากเซเว่น

บีบน้ำมะนาวเตรียมทำ น้ำผึ้งมะนาวโซดา ผสมน้ำแดงขั้นตอนการทำ น้ำผึ้งมะนาวโซดา ผสมน้ำแดง

ผ่าครึ่งมะนาว แล้วหั่นแว่นเพื่อตกแต่งหนึ่งชิ้น ที่เหลือบีบเอาน้ำ

บีบน้ำผึ้งใส่ลงไปประมาณเท่ากันกับน้ำมะนาว เพื่อผสมกับมะนาว ใส่เกลือเล็กน้อยปลายช้อน คนให้เข้ากัน

ใส่น้ำแข็งลงในแก้ว และเทน้ำผึ้งมะนาวใส่แก้ว

เทโซดาผสมลงไปเกือบเต็มแก้ว 

เทน้ำแดงผสมลงไปเพิ่ม คนให้เข้ากัน เสร็จแล้วพร้อมดื่ม

คนน้ำผึ้งและมะนาวให้เข้ากัน น้ำผึ้งมะนาวโซดา ผสมน้ำแดงตอนที่เราใส่น้ำผึ้ง ให้เรากะสัดส่วนตามชอบครับ ถ้าชอบหวานก็ใส่ลงไปเยอะ ๆ เลย แต่ถ้าชอบความหวานของน้ำแดงมากกว่าก็ไม่ต้องใส่น้ำผึ้งก็ได้ ส่วนของผมเน้นเปรี้ยวซ่า เลยใส่น้ำผึงแค่เท่ากับน้ำมะนาว และเติมน้ำแดงแค่นิดเดียวเอากลิ่มหอมสละชดชื่นดีครับ ในขั้นตอนนี้เราจะได้น้ำผึ้งมะนาว นี่ถ้าใครเจ็อคอ หรือไออยู่ใช้แค่สูตรตรงนี้เอาไปจิ๊บกินแก้ไอได้ด้วยเลยนะครับ ผมจะทำไว้กินเวลาไอชุ่มคอดีครับทำให้ไม่ไอบ่อย

เทใส่น้ำแข็ง น้ำผึ้งมะนาวโซดา ผสมน้ำแดงตามสูตรที่แอบลักจำมาจากร้านในขั้นตอนเทใส่น้ำแข็งเขาจะเอาไปผสมกับโซดาให้เสร็จก่อนและค่อยเทใส่ แต่ผมเอามาเทใสน้ำแข็งก่อนแล้วค่อยให้ใส่โซดาลงไปผสม เอาหลอดจิ้มดูดเลยตรงก้นๆจะเข้มข้นไล่ระดับขึ้นมาดีครับ ถ้าไม่ชอบน้ำแดงเพราะมีน้ำตาลก็ตัดจบแค่นี้ได้อีกเมนูเลยครับ

ผสมโซดา น้ำผึ้งมะนาวโซดา ผสมน้ำแดงหน้าตาพร้อมดื่ม น้ำผึ้งมะนาวโซดา แค่นี้ก็ได้อีกเมนูแล้วครับ ดีต่อสุขภาพด้วย เห็นเขาว่าน้ำมะนาวช่วยขับสารพิษในลำไส้ได้ด้วย แถมมีวิตมินซีสูง แค่ผสมน้ำอุ่นกินช่วงเช้าก็ใช้ได้แล้ว ส่วนโซดาก็ช่วยเรื่องการย่อยอาหาร แก้ท้องผูก และยังลดความเสี่ยงโรคหัวใจด้วยนะ

น้ำผึ้งมะนาวโซดา สูตรทำเองผมชอบกลิ่นของน้ำแดง แต่ก็ไม่อยากได้น้ำตาลเพิ่มไปมากนักเลยผสมแค่เพียงนิดเดียว ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงจัดเต็มข้อแล้ว หอมหวานขนาดนี้ แต่ช่วงนี้สุขภาพต้องมาก่อน ขอแค่กลิ่นหอมหวานมาซักหน่อยก็แล้วกัน 

ผสมน้ำแดง น้ำผึ้งมะนาวโซดา ผสมน้ำแดงพอดูแบบนี้แล้วเป็นสีทูโทนสวยดีเหมือนกันนะ ถ้าทำขายนี่จะรุ่งไหม?นะ ฝีมือจัดแก้วเราก็ดูดีอยู่น่ะ ทุกคนว่ายังไงบ้าง

น้ำผึ้งมะนาวโซดา ผสมน้ำแดงพร้อมดื่มใส่หลอดค้นให้เข้ากันแล้วซัดเลยอร่อยแน่นอน แต่ถ้าหวานน้อยไปก็เติมน้ำแดงเอานะ ถ้าเติมน้ำผึ้งตอนนี้มันจะค้นแล้วไม่ละลายเพราะติดน้ำแข็งเย็นจะกลายเป็นก้อนวุ้นๆแทน

พร้อมดื่ม น้ำผึ้งมะนาวโซดา ผสมน้ำแดงรสชาติ น้ำผึ้งมะนาวโซดา ผสมน้ำแดง

แก้วนี้ที่ผมทำไม่เน้นหวานมากออกเปรี้ยวนำหวานตาม และยังคงมีกลิ่นของน้ำแดงผสมมาด้วย ทำให้ได้รสที่ต้องการตรงใจ เวลาอยู่บ้านก็ทำกินเองง่าย ๆ เลยแบบนี้ ถ้าอยู่นอกบ้านคงต้องหาซื้อเอา ที่สำคัญโซดายังเหลืออยู่อีก น่าจะทำได้อีกสามแก้วเลยแหละ แบบนี้ต้องไปเด็ดมะนาวข้างบ้านมาเพิ่มแล้ว ที่จริงแล้วจะผสมเป็นน้ำเขียวก็ได้นะ หรือน้ำผลไม้ตามชอบเลย มันสามารถปรับได้หลากหลายสูตรตามใจเลย